นิวส์ คอนเน็คท์ - นายกรัฐมนตรีชี้ อาเซียนต้องเร่งความร่วมมือด้านพลังงานทุกรูปแบบ สนับสนุนการซื้อขายไฟฟ้าข้ามพรมแดน พัฒนานวัตกรรมพลังงาน ผลักดันให้เกิดยุทธศาสตร์พลังงานอาเซียน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายในงานการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานครั้งที่ 37 ว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าภูมิภาคอาเซียนจะต้องเผชิญกับความท้าทายในภาคพลังงานเป็นอย่างมาก ซึ่งพลังงานเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ส่งผลต่อการพัฒนาสังคม และการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยแนวทางการพัฒนาพลังงานของแต่ละประเทศจะต้องมีการปรับตัวตามกระแสโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานจากพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลเริ่มมีการใช้พลังงานทดแทนกันมากขึ้น สู่การพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานสู่พลังงานสะอาด

ดังนั้น อาเซียนต้องร่วมมือกันสร้างพลังงานให้เข้มแข็ง และมั่นคง รวมทั้งต้องมีการเชื่อมโยงไฟฟ้าระหว่างกัน ผลักดันให้เกิดยุทธศาสตร์ด้านพลังงานอาเซียน และให้สอดคล้องยุทธศาสตร์พลังงานของไทยที่จะมีการส่งเสริมการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานชุมชน การเชื่อมโยงสารส่งในพื้นที่ชุมชนให้เกิดประสิทธิภาพเพื่อสร้างความยั่งยืนด้านพลังงาน ทั้งนี้ การผลักดันให้มีการเชื่อมโยงไฟฟ้านั้นไทยเริ่มการเชื่อมโยงกับ สปป.ลาว และมาเลเซีย ตั้งแต่ปี 61 การประชุมในครั้งนี้ก็เป็นโอกาสในการต่อยอดขยายความร่วมมือการเชื่อมโยงไฟฟ้ากับประเทศสมาชิกอาเซี่ยนอื่นๆอีก

นอกจากนี้ การประชุมในครั้งนี้ยังได้มีข้อเสนอแนะเรื่องการศึกษาโครงสร้างพื้นฐานขนาดเล็กเพื่อรองรับก๊าซธรรมชาติ (Small-scale LNG)  แนวทางการส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนในโครงข่ายไฟฟ้าอาเซียน จะช่วยกำหนดทิศทางและกิจกรรมที่ควรจะดำเนินการในอนาคต เพื่อให้อาเซียนสามารถบรรลุเป้าหมายตามแผนปฏิบัติการด้านพลังงานอาเซียน ในด้านการส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงโครงข่ายและตลาดการซื้อขายก๊าซธรรมชาติในอาเซียน

ส่วนในด้านการพัฒนานานวัตกรรมด้านพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาดนั้น อาเซียนได้เห็นชอบร่วมกันในการผลักดันเป้าหมายด้านพลังงานทดแทนให้ถึงร้อยละ 23 ในปี 2025 และการปรับมาตรฐานด้านประสิทธิภาพพลังงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะส่งให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงาน และการผลิตและใช้พลังงานอย่างยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียนต่อไป