Phones





KBANK ชี้โอกาสลงทุนฝ่าวิกฤติโควิด-19

2021-05-14 17:20:33 294



นิวส์ คอนเน็คท์ - KBank Private Banking ร่วมกับ Lombard Odier เจาะลึกแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่กำลังเปลี่ยนโฉมหลังการระบาดครั้งใหญ่ของโควิด 19 ชี้โอกาสการลงทุนเพื่อให้พอร์ตเติบโตอย่างต่อเนื่องในยุค Post-COVID


เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ดร.แซมมี่ ชาร์ หัวหน้าทีมนักเศรษฐศาสตร์ Lombard Odier เปิดเผยว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกยังไม่ทั่วถึง ด้วยความแตกต่างของความสามารถในการกระจายวัคซีน ทำให้ประเทศที่กระจายวัคซีนได้รวดเร็ว อย่างสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และประเทศในยุโรป กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มทยอยกลับมาเป็นปกติ ส่งผลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วกว่าประเทศอื่น โดยคาดว่าจะก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ หรือ Herd Immunity ได้ในไตรมาส 3/64



นอกจากนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะของสหรัฐฯ อย่าง มาตรการเยียวยาจากวิกฤตโควิด 19 มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศเป็นหลัก และยังมีวงเงินลงทุนระยะยาวในโครงสร้างพื้นฐาน มูลค่า 2.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ American Families Plan ที่เน้นดูแลเด็กและการศึกษา มูลค่า 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นตัวเร่งสำคัญที่ส่งให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับมาฟื้นตัวได้ดี


ขณะที่การขึ้นภาษีในสหรัฐฯ ที่จะสร้างรายได้เพื่อชดเชยมาตรการทางการคลังคาดว่าจะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป และส่งผลกระทบไม่มาก โดยรวมคาดว่าประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะมากกว่าผลเสียจากการขึ้นภาษี ที่เน้นการขึ้นภาษีคนรวยเป็นหลัก ในขณะเดียวกันการขึ้นภาษีรายได้จากการขายสินทรัพย์ในตลาดหุ้น หรือ Capital Gain Tax คาดว่าคงไม่สามารถขึ้นภาษีได้ถึง 39% แต่อาจจะขึ้นจาก 20% เป็น 30% เท่านั้น


ด้าน มร.สเตฟาน โมเนียร์ ผู้บริหารการลงทุนระดับสูง Lombard Odier กล่าวว่า มุมมองต่อตลาดหุ้นในแต่ละภูมิภาค รวมทั้งสินทรัพย์ประเภทอื่นๆมีความแตกต่างกัน โดยหุ้นกลุ่มตลาดเกิดใหม่ หุ้นยุโรป และตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ น่าจะให้ผลตอบแทนดีที่สุด ในอีก 1 ปี ข้างหน้า บริษัทจดทะเบียนในสหราชอาณาจักร ตลาดเกิดใหม่ และยุโรป มีกำไรสุทธิต่อหุ้น หรือ Earing จะเติบโตได้ดีกว่าภูมิภาคอื่น ในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว คาดว่าหุ้นคุณค่า หรือ Value Stock จะมีผลตอบแทนที่โดดเด่นกว่าหุ้นกลุ่มเติบโต หรือ Growth Stock แม้ราคาต่อหุ้นจะค่อนข้างแพง แต่การเติบโตของกำไรสุทธิต่อหุ้น หรือ Earning ยังคงสนับสนุนให้น่าสนใจต่อเนื่อง


อย่างไรก็ตาม มองว่าทองคำ ตราสารหนี้ยุโรป และตราสารหนี้ในสหรัฐฯ ให้ผลตอบแทนน้อยที่สุด จากการคาดการณ์ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี จะอยู่ที่ 2.0% ณ สิ้นปี 2564 และ 2.5% ในอีก 12-18 เดือนข้างหน้า ซึ่งส่งผลกระทบทางลบต่อผลตอบแทนทองคำ


สำหรับกระแส Bitcoin มองว่ามีโอกาสที่ทั่วโลกจะใช้ Cryptocurrency แพร่หลายมากขึ้นในอนาคต และเชื่อว่าเทคโนโลยี Block Chain จะเข้ามามีบทบาทในโลกการเงินมากขึ้น แต่ในแง่ของการลงทุนนั้นมองว่ายังมีความเสี่ยงอยู่มาก เพราะ 1) ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ ราคาเคลื่อนไหวตาม Demand-Supply 2) นวัตกรรมและเทคโนโลยีอาจทำให้มี Crypto Asset ใหม่ๆ ที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จมากกว่า Bitcoin


ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุน Lombard Odier ยึดหลักลงทุนโดยการกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์ หุ้น และกระจายการลงทุนทั้ง Growth + Value Stock ให้ความสำคัญกับการลงทุนในหุ้นยั่งยืน ตราสารหนี้ โดยเน้นลงทุนในจีน เพราะมีผลตอบแทนที่น่าดึงดูด เติมเต็มพอร์ตด้วย Private Assets เพื่อเพิ่มผลตอบแทนในระยะยาว



นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group Head ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK กล่าวว่า ท่ามกลางสภาวะตลาดปัจจุบันที่มีความผันผวนสูง แต่แนวโน้มเศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากการทยอยเปิดเมือง จากการเร่งฉีดวัคซีนในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว โดยเฉพาะสหรัฐฯ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว ถือเป็นปัจจัยเอื้อต่อตลาดหุ้น และธนาคารยังคงเชื่อมั่นว่าการลงทุนระยะยาว ผ่านการกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนในระยะสั้น อีกทั้งยังคงเน้นการลงทุนหุ้นในธีม Winner of New Economy, Health is Wealth และ Save the World ที่ล้วนมีปัจจัยสนับสนุนเฉพาะ รวมไปถึงความสามารถในการคัดเลือกหุ้นของผู้จัดการกองทุนชั้นนำของโลก ที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาว


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews