Phones





บล.ทรีนีตี้ คัด15หุ้นน่าลงทุนเดือนก.ค.

2021-07-02 13:40:59 313



นิวส์ คอนเน็คท์ - บล.ทรีนีตี้ ประเมินกรอบดัชนีที่ 1,550-1,650 จุด แนะจัดพอร์ตลงทุนหุ้นเดือน ก.ค.แบบผสมผสาน คัด 15 หุ้นน่าลงทุน เน้นหุ้น Growth กลุ่มส่งออก และหุ้น Value ในกลุ่มการเงิน

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นช่วงต้นไตรมาส 3/64 มองว่าดัชนีจะแกว่งตัว Sideways โดยประเมินกรอบดัชนีที่ 1,550-1,650 จุด ขณะที่ปัจจัยที่จะเข้ามากระทบการลงทุนในช่วงเดือน ก.ค.ยังคงให้น้ำหนักกับสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเริ่มมีสัญญาณชี้ให้เห็นถึงการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ต่างๆ ทั่วโลก จนอาจนำไปสู่ความกังวลต่อประสิทธิผลของวัคซีนได้ ส่วนการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลก คาดว่าจะยังไม่มีข่าวร้ายใดๆ ออกมาในเดือนนี้ ซึ่งจะทำให้ปัจจัยสภาพคล่อง ในตลาดมีแนวโน้มอยู่ในเกณฑ์ดีต่อไป

โดยกลยุทธ์ แนะนำให้นักลงทุนใช้ระดับดัชนี 1,600 จุดเป็นแกนกลางแบ่งครึ่งในการลงทุน หากดัชนีอยู่ในระดับต่ำกว่า 1,600 จุดลงมาให้เน้นซื้อ โดยเฉพาะเข้าใกล้แนวรับที่ 1,550 จุด แต่หากดัชนีปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1,600 จุดขึ้นไปให้เน้นขาย โดยเฉาพะเข้าใกล้แนวต้านที่ 1,650 จุด 

สำหรับการจัดสรรพอร์ตลงทุนนั้น อยากแนะนำเน้นไปทางหุ้น Growth มากกว่า Value ในเดือนนี้ เพราะมีโอกาสสูงที่จะปรับตัว Outperform โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยังคงรุนแรง และเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Bond yield ระยะยาวที่ยังคงทรงตัวต่ำ จากความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อผ่อนคลายลง และประเด็น QE Tapering ที่ยังไม่น่าจะถูกส่งสัญญาณออกมาในเดือนนี้ รวมถึงกลุ่มที่มัก Outperform ในช่วงที่ความชัน Yield curve อยู่ในระดับต่ำ

นอกจากนี้หุ้นในกลุ่ม Growth จะมีอัตราการเติบโตของกำไรแข็งแกร่งเป็นพิเศษ โดยให้เลือกหุ้น กลุ่มส่งออก ที่ส่วนใหญ่จะมีผลประกอบการไตรมาส 2/64 อยู่ในเกณฑ์ดี ได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาท และได้ประโยชน์จากพฤติกรรม WFH ในต่างประเทศ คือ KCE, TFG, ASIAN, SUN, XO กลุ่มโลจิสติกส์ แนะนำ LEO, WICE, SONIC อีกทั้งกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากพฤติกรรม New normal การสั่งสินค้าออนไลน์ และ Delivery ต่างๆ รวมถึงราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง คือ SCGP, SFT, SFLEX, UTP 

สำหรับหุ้น Value ในกลุ่มการเงินที่แนะนำ คือ KBANK ที่กำลังจะประกาศผลประกอบการซึ่งผลดำเนินงานไตรมาส 2/64 คาดว่าจะออกมาไม่แย่มากนักเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และ MTC ซึ่งคาดหวังกำไรไตรมาส 2 ขยายตัวเป็นบวก เมื่อเปรียบเทียบไตรมาสก่อนหน้า และงวดเดียวกันของปีก่อนรวมถึงได้ประโยชน์จากต้นทุนทางการเงินที่อยู่ในระดับต่ำ และ BAM หลังตัวหุ้นปลอดแรงขายการปรับพอร์ตของนักลงทุนสถาบัน จากการถูกถอดออกจากดัชนี SET50 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว