Phones





บลจ.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ ชี้เป้าดัชนีปีนี้ 1,785 จุด

2019-09-10 17:49:25 389




นิวส์ คอนเน็คท์ – บลจ.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ ประเมินเป้าดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ้นปี 62 ไว้ที่ 1,785 จุด หลังคาดตัวเลขจีดีพีครึ่งปีหลังมีโอกาสขยายตัว 3.5% จากการฟื้นตัวของการบิรโภคภาคเอกชนและการลงทุน รวมถึงแรงส่งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดเริ่มเห็นเงินทุนต่างชาติโยกเงินลงทุนจากสินทรัพย์ปลอดภัยเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี


นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของไทยปี 62 ประเมินว่าตัวเลขจีดีพีจะขยายตัวที่ระดับ 2.8-3% โดยคาดว่าตัวเลขจีดีพีในช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 จะขยายตัวระดับ 3.5% เนื่องจากสัญญาณทางเศรษฐกิจหลายๆ ตัว มีแนวโน้มดีขึ้น ทั้งการบริโภคภาคเอกชน การลงทุน และจำนวนนักท่องเที่ยวจีนและอินเดียที่เริ่มกลับมาเติบโตมากขึ้น

นอกจากนี้ มองว่าจะมีแรงส่งจากการที่รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจคิดเป็นวงเงิน 3 แสนล้านบาท ซึ่งแม้วงเงินส่วนใหญ่จะไปอยู่ที่นโยบาย soft loan และรีไฟแนนซ์ เพื่อช่วยเหลือธุรกิจรายเล็กและผู้ประกอบการเอสเอ็มอี แต่จะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจในระยะยาว แต่ยังมีวงเงินบางส่วนที่เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย รวมไปถึงนโยบายชิม ช้อป ใช้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นภาคการบริโภค และส่งผลบวกต่อจีดีพีราว 0.3%


อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญที่มองว่ากำลังจะเกิดขึ้นคือ ปัจจัยต่างประเทศ หลังจากที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนมีความยืดเยื้อ มองว่าจะส่งผลให้เกิดสงครามค่าเงินตามมา และจะทำให้ธนาคารกลางหลักๆ ของโลก เร่งใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย ทั้งการลดอัตราดอกเบี้ยและการใช้มาตรการ QE ซึ่งถือเปนประเด็นบวกต่อกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงตลาดหุ้นไทย


จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น ทำให้ยังคงประเมินเป้าหมายดัชนีสิ้นปี 62 ไว้ที่ 1,785 จุด โดยประเมินว่าเงินทุนต่างชาติกำลังไหลกลับเข้ามาในตลาดเกิดใหม่และตลาดหุ้นไทย เนื่องจากพบว่าแรงขายต่างชาติเริ่มเบาบางลง รวมถึงเริ่มเห็นนักลงทุนต่างชาติเปิดสถานะ Long ใน SET50 ฟิวเจอร์เพิ่มมากขึ้น โดยจากสถิติพบว่าต่างชาติมีการซื้อสุทธิ 9 วันติดต่อกันคิดเป็นจำนวน 75,000 สัญญา ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ รวมถึงเงินทุนต่างชาติที่อยู่ในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ หรือพันธบัตร มูลค่ากว่า 16 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะเริ่มเห็นการสวิงกลับมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มมากขึ้น

สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่มองว่ามีความสนใจในการเข้าลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ ได้แก่ กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP), กลุ่มโรงกลั่น (TOP), กลุ่มโรงไฟฟ้า (GPSC), กลุ่มสื่อสาร (ADVANC, TRUE, INTUCH) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยต่ำ (SAWAD, MTC), หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล (CPALL, BJC, RS), กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตนิคมอุตสาหกรรม (WHA, AMATA, ROJNA) กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (MINT, CENTEL)