Phones





กพช.ไฟเขียวโรงไฟฟ้าชุมชน - COD ก่อนปี 65

2019-09-11 13:02:55 331




นิวส์ คอนเน็คท์ - กพช. ผ่านนโยบาย โรงไฟฟ้าชุมชน คาดไฟฟ้าเข้าระบบปี 65 หวังดึงเอกชนร่วมลงทุน พร้อมประกาศใช้ B10 เป็นดีเซลพื้นฐาน 1 ม.ค.63 หวังดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ 57 ล้านลิตรต่อวัน


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ว่า ที่ประชุม กพช. เห็นชอบนโยบายพลังงานเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โรงไฟฟ้าชุมชน) ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 62 ที่จะช่วยให้ชุมชนมีรายได้จากการเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าฯ และลดภาระค่าใช้จ่าย มีรายได้จากการจำหน่ายวัสดุทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิง เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างความเข้มแข็งในชุมชน ลดการย้ายถิ่นฐานของแรงงาน เกิดการจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ ก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในชุมชน สามารถนำไฟฟ้าที่ผลิตได้ สร้างมูลค่าเพิ่มในการประกอบอาชีพของชุมชน เช่น ห้องเย็น เครื่องจักรแปรรูปการเกษตร เป็นต้น


หลังจากนี้ ทางกระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดรายละเอียดคัดเลือกพื้นที่ที่มีความเหมาะสมและมีศักยภาพในการลงทุน เช่น พื้นที่อยู่ปลายสายส่งไฟฟ้าเข้าไม่ถึงไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ชุมชนบนเกาะ บนภูเขา รวมทั้งพื้นที่ที่มีศักยภาพด้านวัตถุดิบทางการเกษตร และมีระบบส่งและระบบจำหน่ายไฟฟ้ารองรับไฟฟ้าที่จะผลิตจากชุมชน


โดยแนวทางการจัดตั้งให้ภาคไฟฟ้ารัฐอย่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เข้าไปร่วมจัดตั้งกับภาคเอกชนและชุมชน ซึ่งในรายละเอียดการร่วมลงทุนนั้นจะเร่งให้มีความชัดเจนในเร็วๆ นี้เพื่อเสนอ กพช. ให้อนุมัติในหลักการต่อไป


อย่างไรก็ตาม หากพื้นที่ไม่มีศักยภาพจากพืชพลังงานจะส่งเสริมการผลิตจากแสงอาทิตย์ด้วย ขนาดกำลังผลิตที่สอดคล้องความต้องการใช้ในพื้นที่ ทั้งนี้ ราคารับซื้อต้องกระทบต่อราคาค่าไฟฟ้าน้อยที่สุด และมีการกำหนดผลประโยชน์กลับคืนสู่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม เช่น ส่วนลดค่าไฟฟ้า ส่วนแบ่งผลกำไรจากการดำเนินงาน หรือรายได้จากการขายเชื้อเพลิงจากวัสดุทางการเกษตร โดยอาจมีงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน และกองทุนพัฒนาไฟฟ้า โดยโครงการนี้มีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบไม่เกินปี 2565


นอกจากนี้ที่ประชุม กพช. ยังเห็นชอบแนวทางการส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล เพื่อให้การส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลเป็นไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ของประเทศทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง จึงเห็นชอบแนวทางการส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล โดยเริ่มขยายส่วนต่างราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 ให้ต่ำกว่า B7 ที่ 2 บาทต่อลิตร และลดส่วนต่างราคาขายปลีกน้ำมัน B20 ให้ต่ำกว่าน้ำมัน B7 ที่ 3 บาทต่อลิตร โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป และจะบังคับใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 เป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วเกรดพื้นฐาน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 โดยให้น้ำมัน B7 อย่างเป็นทางการ


ทั้งนี้ในช่วงต้นปี 2563 หลังจากบังคับใช้ B10 กระทรงพลังงานมีเป้าหมายช่วยดูดซับการใช้ CPO เป็น 57 ล้านลิตรต่อวัน สิ้นปี 62 ตั้งเป้าดูดซับในระดับ 37 ล้านลิตรต่อวัน และการส่งเสริมใช้ B20 ดูดซับ CPO ได้ 5 ล้านลิตรต่อวัน ส่วนในภาพรวมภายหลังจากการส่งเสริมคาดว่าเดือนธันวาคม 2562 จะมีปริมาณการใช้ไบโอดีเซล(B100) ที่ระดับ 6.2 ล้านลิตรต่อวันและช่วยดูดซับการใช้ CPO 167,360 ตันต่อเดือน