Phones





BBLรุกหนักบริการ Transaction Banking ชู 4 กลยุทธ์บุกตลาด

2021-10-07 17:09:59 223



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – BBL เดินหน้าขยายบริการ Transaction Banking เน้นเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกรรมด้านการเงินฝ่าวิกฤติ ตอบโจทย์ลูกค้าธุรกิจแบบครบวงจร ชู 4 กลยุทธ์บุกตลาด “มองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง-มีความเชี่ยวชาญ รู้จริง-ต่อยอดเทคโนโลยีนวัตกรรม-มีเครือข่ายครอบคลุม”
 
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2564 นายพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ธนาคารกำหนดเป้าหมายการให้บริการด้าน Transaction Banking สำหรับลูกค้าธุรกิจในปีนี้ คือการให้บริการที่ครอบคลุมทุก Segment โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือโซลูชันที่สอดคล้องกับการแข่งขันและพฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันที่มีความเป็นดิจิทัลมากขึ้น เช่น Blockchain Solution ที่ปฏิวัติธุรกรรม Letter of Credit (L/C) และ Letter of Guarantee (L/G) ให้มีความรวดเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกรรม มีความปลอดภัย ตรวจสอบได้
 
ขณะที่บริการ Digital Payment Solution ที่นำเทคโนโลยี QR มาประยุกต์ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพด้านการรับเงินและจ่ายเงินกับคู่ค้าทุกประเภท และบริการ API Payment เพื่อให้ชำระเงินได้อย่างรวดเร็วและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ เป็นต้น ทำให้ปัจจุบันมีลูกค้าธุรกิจชั้นนำทั้งในไทยและต่างประเทศให้ความไว้วางใจใช้บริการ Transaction Banking ของธนาคารแล้วกว่า 150,000 ราย
 
ทั้งนี้ ภายใต้บริการ Transaction Banking ที่ธนาคารนำเสนอ จะประกอบด้วยบริการย่อยต่าง ๆ ที่จะช่วยสนับสนุนการจัดการทางการเงินของธุรกิจให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ผ่านบริการ Cash Management, Trade Finance, Supply Chain Finance และ Securities Services ส่งผลให้ธนาคารสามารถนำเสนอ Total Solutions ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าธุรกิจได้อย่างรอบด้านภายใต้การขับเคลื่อนผ่าน 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1.การให้ความสำคัญกับลูกค้าและมองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง หรือ Customer Centric เพื่อเข้าใจความต้องการอย่างแท้จริง และสามารถพัฒนาบริการหรือโซลูชั่นที่เข้ามาช่วยแก้ pain point ของธุรกิจลูกค้าที่มีอยู่ได้ เช่น การนำเสนอ All-in-One Packages ให้กลุ่มลูกค้า SMEs ทั้งลูกค้าที่ทำธุรกิจภายในประเทศ หรือลูกค้าที่เป็นผู้นำเข้าส่งออก โดยสามมารถรองรับการทำธุรกรรมได้ครบวงจรทั้ง online และ offline
 
2.บุคคลากรที่มีประสบการณ์ เชี่ยวชาญ และรู้จริงในบริการ พร้อมสามารถให้คำปรึกษาได้อย่างเหมาะสม ทันต่อสถานการณ์ธุรกิจ, 3. การคัดเลือกเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย เหมาะสม มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือได้มาต่อยอดการพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่อง และ 4. การมีเครือข่ายสาขาธนาคารครอบคลุมทั้งในประเทศไทย และเขตเศรษฐกิจสำคัญทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “ธนาคารแห่งภูมิภาค” หรือ Regional Banking โดยได้ขยายศักยภาพ Transaction Banking ไปยังสาขาต่างประเทศ เพื่อให้ลูกค้านิติบุคคลที่มีธุรกรรมกับสาขาต่างประเทศสามารถใช้บริการได้อย่างสะดวกและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการธุรกรรมทางการเงิน
 
ทั้งนี้ สถานการณ์ตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งยังคงมีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อต่อเนื่องไปอีกตลอดทั้งปี เช่นเดียวกับภาวะเศรษฐกิจภาพรวมที่อาจยังไม่สามารถฟื้นตัวได้มากนัก ดังนั้น ภาคธุรกิจยังต้องปรับตัวให้อยู่รอด โดยเฉพาะเรื่องการจัดการด้านการเงินให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว ลดขั้นตอนการดำเนินงาน และสามารถจัดการสภาพคล่องที่ต้องเตรียมพร้อมกับเหตุฉุกเฉินได้ตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็ต้องบริหารความสัมพันธ์กับคู่ค้าและลูกค้า รวมถึงการหาตลาดใหม่ๆ ซึ่งบริการ Transaction Banking จากธนาคารกรุงเทพ พร้อมเข้ามาสนับสนุนในมิติเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่