Phones





KTBร่วมมือ MTS เปิดซื้อขายทองคำออนไลน์

2021-10-08 16:38:22 258



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – KTB เปิดซื้อขายทองคำออนไลน์แบบครบวงจรผ่าน “Krungthai Gold Wallet” บนแอปฯเป๋าตัง ตอกย้ำการเป็น Thailand Open Digital Platform ให้นักลงทุนซื้อ-ขายทองคำได้สะดวกและปลอดภัย “ไม่มี” ค่าธรรมเนียม อิงราคาตลาดโลก ตอบโจทย์ผู้ลงทุนยุคใหม่ นำร่องกับ “MTS Gold แม่ทองสุก” เริ่ม 25 ต.ค.นี้
 
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2564 นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เปิดเผยว่า ธนาคารมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมสินทรัพย์ที่ตอบโจทย์ผู้ลงทุนทุกกลุ่ม บนช่องทางที่เข้าถึงได้ง่าย ตอบโจทย์การลงทุนยุคใหม่ โดยเฉพาะบนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งเป็น Thailand Open Digital Platform ได้รับการพัฒนาโดย อินฟินิธัส บาย กรุงไทย (Infinitas by Krungthai) เปิดกว้างสำหรับผู้ใช้งาน และพันธมิตรทุกกลุ่มเข้ามาร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด
 
ล่าสุด ธนาคารได้พัฒนา “Krungthai Gold Wallet” บนแอปฯเป๋าตัง เปิดโอกาสนักลงทุนทั่วไปเข้าถึงการลงทุนทองคำบริสุทธิ์ 99.99% จากร้านทองชั้นนำได้แบบเรียลไทม์ ผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่เปิดบัญชี เติมและแลกเงิน ซื้อและขายทองคำ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปร้านทองหรือธนาคาร ตอบโจทย์การลงทุนยุคใหม่ และลดภาระการเก็บรักษาทองคำของผู้ลงทุน
 
“Krungthai Gold Wallet เป็นการพลิกโฉมการลงทุนทองคำในประเทศไทยอย่างแท้จริง ทำให้ลูกค้าสามารถลงทุนซื้อ-ขายทองคำได้ทุกที่ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ลงทุนขั้นต่ำเพียง 0.1 ออนซ์ หรือประมาณ 6,000 บาท  เปิดให้ลงทุนในช่วงวันทำการจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 7.00 น. ถึง 02.00 น. เพื่อให้นักลงทุนซื้อ-ขายได้อย่างต่อเนื่อง ในเวลาที่ตลาดต่างประเทศเปิดทำการ ทำให้นักลงทุนไม่พลาดโอกาสจากการปรับตัวขึ้นลงของราคาทองคำในตลาดโลก โดยราคาซื้อขายอ้างอิงตามราคาตลาดโลก บนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ลดแรงกดดันจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน” นายรวินทร์ กล่าว
 
ทั้งนี้ บริการซื้อขายทองคำผ่าน Krungthai Gold Wallet นำร่องให้บริการ วันที่ 25 ต.ค.64 ร่วมกับ MTS GOLD แม่ทองสุก ซึ่งเป็นผู้ให้บริการค้าทองคำอันดับต้นๆของประเทศ เมื่อมีการซื้อทองคำ ทองคำจะถูกเพิ่มเข้าในวอลเล็ตทองคำที่เปิดกับร้านทองทันที และเมื่อกดขายทองจะได้รับเงินเข้าบัญชีทันทีเช่นกัน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น นักลงทุนสามารถซื้อขายทำกำไรจากราคาทองโลก โดยตัดหรือรับเงินในบัญชีดอลลาร์สหรัฐได้โดยตรง ซึ่งสามารถเปิดบัญชีสกุลเงินดอลลาร์เพื่อซื้อขายเงินดอลลาร์แบบออนไลน์ครบวงจร (eFCD) ได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ถือเป็นการให้บริการ eFCD ครั้งแรกของประเทศ โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่กำหนดวงเงินขั้นต่ำ ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนพิเศษที่ดีกว่าการแลกผ่านเคาท์เตอร์ธนาคาร ซึ่งต่อยอดมาจากความสำเร็จของ Krungthai Travel Card ที่ธนาคารได้ริเริ่มให้บริการเป็นรายแรก
 
นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประธานฝ่ายบริหารกลุ่มบริษัท MTS Gold กล่าวว่า ทองคำเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจและยังคงได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงมาโดยตลอดทุกยุคทุกสมัย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของ MTS Gold ที่มีมาตั้งแต่บริการซื้อขายทองคำผ่านตู้แดง และผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนทั้งใน Gold Online, Gold Futures และทองคำในตลาด COMEX ที่ทำให้บริษัทได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและตลาดโลก รวมไปถึงการได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย ในการให้บริการซื้อขายทองคำในรูปแบบดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น การเชื่อมต่อการซื้อขายทองคำผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ก็เชื่อว่าจะเป็นการนำร่องความก้าวหน้าและความสำเร็จของอุตสาหกรรมทองคำไทย เพื่อให้เกิดความหลากหลายและความสะดวกในทุกช่องทางการลงทุน รองรับการเข้าถึงทองคำในทุกการใช้งานให้แก่ผู้ใช้บริการทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น
 
นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบัน ธปท.อยู่ระหว่างการผลักดันให้เกิดระบบนิเวศใหม่ของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนไทย (FX Ecosystem) โดยหนึ่งในเป้าหมายหลักคือ ให้คนไทยลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศได้สะดวกขึ้น โดยที่ผ่านมา ธปท. ได้ผ่อนคลายหลักเกณฑ์ให้สามารถซื้อขายสินทรัพย์ต่างประเทศและทองคำเป็นสกุลดอลลาร์ ได้ภายในประเทศ รวมไปถึงยังได้ผ่อนคลายเกณฑ์เกี่ยวกับบัญชี FCD ให้คนไทยเปิดบัญชี ซื้อฝาก ถอนขายรับเงินบาท และโอนเงินตราต่างประเทศระหว่างกันผ่านบัญชี FCD ได้เสรี
 
ดังนั้นการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อซื้อขายทองคำสกุลดอลลาร์ ควบคู่กับการเปิดให้บริการ eFCD ครั้งแรกในประเทศไทย ถือเป็นบริการด้านการลงทุนแบบออนไลน์อย่างครบวงจร ที่จะช่วยสนับสนุนให้คนไทยสามารถทำการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศ รวมทั้งบริหารจัดการเงินตราต่างประเทศได้คล่องตัว ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงิน และมีทางเลือกในการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศที่หลากหลายขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการผลักดันให้เกิดระบบนิเวศใหม่ของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนไทย (FX Ecosystem) ในระยะยาว