Phones





UAC โชว์กำไรเฉพาะกิจการ Q3 พุ่ง 700% บุ๊กเงินปันผลจาก “BBGI-BI”

2024-11-08 16:35:29 63



นิวส์ คอนเน็คท์ - UAC ประกาศงบการเงินรวม 9 เดือนปี 67 โกยรายได้ 1,645.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.75% พร้อมรับทรัพย์ปันผลระหว่างกาลจาก BBGI-BI จำนวน 439.50 ล้านบาท ดันกำไรงบการเงินเฉพาะกิจการแตะ 431.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 700.60% ทะยานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ บอร์ดไฟเขียวเคาะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล อัตราหุ้นละ 0.25 บาทต่อหุ้น เตรียมจ่ายปันผล 6 ธ.ค. นี้

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจาก ผลการดำเนินงาน 9 เดือน (1 ม.ค. – 30 ก.ย. 2567) ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท รวมเป็นเงินที่จ่ายจำนวน 166.90 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 22 พ.ย. 2567 และกำหนดจ่ายในวันที่ 6 ธ.ค. 2567 ซึ่งคาดว่าจากผลการดำเนินงานทั้งปี 67 นี้ UAC จะสามารถจ่ายปันผลเพิ่มเติมได้อีกตามข้อกำหนด ปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิของงบกิจการ และ ณ สิ้นไตรมาสสาม บริษัทมีสภาพคล่องกว่า 700 ล้านบาท รองรับการชำระคือหุ้นกู้ในกลางปี 2568  

สำหรับผลการดำเนินงานตามงบการเงินเฉพาะกิจการ Q3/2567 และ 9M/2567 บริษัทฯ มีกำไรเพิ่มขึ้น 377.30 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 700.60% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 277.22 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 122.36% ตามลำดับ เป็นผลมาจากการได้รับเงินปันผลระหว่างกาลจากบริษัทร่วม BBGI-BI ซึ่ง UAC ได้รับปันผลในอัตราหุ้นละ 520.426288 บาท รวมเป็นเงิน 439.50 ล้านบาท ส่งผลให้งบการเงินเฉพาะกิจการมีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ส่วนผลการดำเนินงานรวมสำหรับงวด 9 เดือน ปี 67 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 1,645.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.75% จากรายได้กลุ่มธุรกิจ Trading มีรายได้รวม 1,387.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 301.32 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 27.73% รายได้กลุ่มธุรกิจ Manufacturing - Energy มีรายได้รวม 122.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.50 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.94% และรายได้กลุ่มธุรกิจ Manufacturing - Petroleum มีรายได้รวม 135.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.33 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 154.00% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน 

ส่วนค่าใช้จ่ายจากการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจำนวน 89.52 ล้านบาท เป็นผลจากการตั้งสำรองด้อยค่าของสินทรัพย์ที่ไม่ใช่สินทรัพย์ทางการเงินของโรงงาน PPP (UAC) และโรงไฟฟ้าเสาเถียร (UACE) รวมจำนวน 63.34 ล้านบาท เนื่องจากโรงงานดังกล่าวได้รับวัตถุดิบที่ไม่เพียงพอต่อการผลิต ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท 66.85 ล้านบาท และ EBITDA จำนวน 200.14 ล้านบาท และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วมอย่างต่อเนื่อง จำนวน 62.55 ล้านบาท