Phones





TTB จับมือ ‘databricks’ ยกระดับการให้บริการ-สร้างโซลูชันทางการเงิน

2024-11-15 18:18:35 36



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – TTB เดินหน้าสร้าง Data-driven Culture ปักธงก้าวสู่ธนาคารที่โดดเด่นในเรื่องการใช้ Data และ AI ในการดำเนินธุรกิจ จับมือ “databricks” ผู้นำด้าน Data Intelligence Platform ระดับโลก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและสร้างสรรค์โซลูชันทางการเงิน ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าในระดับเฉพาะบุคคล
 
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 นายนริศ สถาผลเดชา ประธานกลุ่ม งาน Data และ Analytics ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB เปิดเผยว่า ธนาคารขับเคลื่อนองค์กรด้วยการนำ Data มาวิเคราะห์ และให้ความสำคัญกับการเข้าใจลูกค้าเชิงลึก เพื่อให้ทราบพฤติกรรมและความต้องการที่แท้จริงที่จะช่วยให้ธนาคารสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น โดยการยกระดับการบริการและสร้างประสบการณ์ทางการเงิน ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละบุคคลอย่างเฉพาะเจาะจงผ่าน Personalized AI Engine
 
นอกจากนี้ ธนาคารได้ช่วยลูกค้าลดความเสี่ยงจากการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยเฉพาะการโอนเงินเข้าบัญชีที่น่าสงสัยว่าอาจเป็น “มิจฉาชีพ” ที่หลอกลวงทางการเงินทุกรูปแบบ พร้อมยกระดับความปลอดภัยแบบเฉพาะบุคคล ด้วยระบบแจ้งเตือนบนหน้าแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้ง ttb touch เพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจในการพัฒนาบริการให้มีทั้งคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุด
 
ทั้งนี้ ธนาคารได้มอบบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ลูกค้าในระดับเฉพาะบุคคล บนแอป ttb touch ด้วยแนวคิด Humanized Digital Banking ที่เป็นประโยชน์กับลูกค้าได้อย่างรอบด้าน โดยพิจารณาจากพฤติกรรมการใช้จ่าย ไลฟ์สไตล์ และความต้องการของลูกค้าแต่ละคน ทำให้ธนาคารสามารถนำเสนอบริการที่ตรงใจลูกค้าในเวลาที่เหมาะสม รวมไปถึงการแจ้งเตือน และแนะนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับลูกค้าผ่าน Personalized Message มากกว่า 4 ล้านราย ผ่าน 18 ล้านข้อความต่อวันบนแอป ttb touch ซึ่งช่วยสร้างความประทับใจและความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า ส่งผลให้ยอด Digital Sales ผ่านการทำ Personalized Card เติบโตถึง 2 เท่า และสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าในช่องทางดิจิทัลอย่างเห็นได้ชัด
 
อย่างไรก็ตาม ในยุคที่ความปลอดภัยทางการเงินมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ธนาคารได้พัฒนาระบบ AI เพื่อป้องกันการทุจริตทางการเงิน โดยนำ “4V” ได้แก่ Volume, Variety, Velocity และ Veracity มาใช้ในการตรวจจับรูปแบบธุรกรรมที่มีความเสี่ยง ด้วยวิธีนี้ทำให้ธนาคารสามารถลดอัตราบัญชีม้าเกิดใหม่ได้อย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการรักษาความปลอดภัยของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังได้มีการแจ้งเตือนลูกค้าแอปttb touch เพื่อยกระดับความปลอดภัยทางการเงินในระดับเฉพาะบุคคล โดยในช่วงที่ผ่านมา ธนาคารได้วิเคราะห์ข้อมูลและส่ง Personalized Card แจ้งเตือนไปยังลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่มีความเสี่ยง ซึ่งพบว่ามีลูกค้าให้การตอบรับและเข้าไปปิดฟังก์ชันการใช้จ่ายร้านค้าออนไลน์และการใช้จ่ายโฆษณาบนบัตรเครดิตที่ไม่ได้ใช้งานถึง 43,000 ราย อีกทั้งยังได้ปรับลดวงเงินการทำธุรกรรมที่ลูกค้าตั้งค่าวงเงินไว้เกินความจำเป็นไปกว่า 25,000 ราย
 
นอกจากนี้ ธนาคารได้นำเทคโนโลยีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) และ Generative AI เชิงสร้างสรรค์มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการของพนักงานในช่องทาง ttb contact center ที่ทำให้สามารถตอบคำถามลูกค้าได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้นกว่าเท่าตัว พร้อมทั้งยกระดับขีดความสามารถด้าน Data and AI โดยใช้แพลตฟอร์มสุดล้ำอย่าง databricks ที่ Gartner ได้จัดลำดับให้เป็นผู้นำด้าน Data and AI ในการประมวลผลข้อมูล เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน อาทิ ความรวดเร็วในการใช้และประมวลผลข้อมูลที่ให้ความสามารถในการใช้ประโยชน์ได้เรียลไทม์ และรองรับปริมาณการประมวลผลข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ ตลอดจนเจาะลึกเชิงเทคนิคทำให้ส่ง Personalized Message หาลูกค้าได้จำนวนมาก ถูกจังหวะ ถูกเวลา เรียลไทม์ และครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ธนาคารสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นในทุกมิติ
 
ทั้งนี้ ด้วยพื้นฐานข้อมูลที่แข็งแกร่ง ธนาคารได้นำดิจิทัลมาดูแลลูกค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มในทุกช่วงชีวิตและ AI เชิงสร้างสรรค์มาขับเคลื่อนการเติบโตและการดำเนินงาน เสริมศักยภาพพนักงานในการนำข้อมูลมาใช้ เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-driven Culture) ซึ่งไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน แต่ยังสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อการเติบโตขององค์กร ช่วยให้ทีทีบีก้าวสู่การเป็นธนาคารดิจิทัลที่ล้ำสมัยในตลาดการเงินของไทย
 
“ทีทีบีมุ่งขับเคลื่อนกลยุทธ์ Transform องค์กรในทุกมิติ โดยนำ Data และ AI มาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าเพื่อมอบประสบการณ์ทางการเงินเฉพาะบุคคล วิเคราะห์บัญชีที่มีความเสี่ยงจะเป็นบัญชีม้าเพื่อแจ้งเตือนภัยทางการเงินของลูกค้าให้มีความปลอดภัย ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจทางการเงินได้อย่างมีข้อมูลที่ครบถ้วน ซึ่งการใช้เทคโนโลยีนี้ทำให้ลูกค้าของเราสามารถมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้ และเสริมสร้างอนาคตทางการเงินที่ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง” นายนริศ กล่าว