Phones





SINO ซื้อ A.S.L. ถือหุ้น 100% รุกขยาย Air Freight - คลังสินค้า

2025-09-16 15:18:47 44



นิวส์ คอนเน็คท์ - SINO ประเมิน แนวโน้มอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าระหว่างประเทศช่วงที่เหลือของปีนี้มีดีมานด์ต่อเนื่อง หลังพบผู้นำเข้าสินค้าในสหรัฐฯ มองไทยได้เปรียบเชิงการแข่งขันในการส่งออก หลังจากได้ข้อสรุปอัตราภาษีตอบโต้กับสหรัฐฯ ที่ 19% กางแผนขยายธุรกิจบริการ Air Freight หลังปิดดีลเข้าถือหุ้น 100% ใน "เอ.เอส. โลจิสติคส์" วางแผนลงทุนขยายคลังสินค้าใหม่ใน จ.สมุทรปราการ จัดตั้งบริษัทร่วมทุนในอินโดนีเซีย มุ่งสู่ผู้นำบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศครบวงจรระดับภูมิภาค 

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการขนส่งทางทะเลเส้นทางไทย-สหรัฐฯ ช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ ได้รับผลกระทบเชิงบวกและลบจากความไม่แน่นอนของการปรับขึ้นอัตราภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariffs) ของสหรัฐฯ ขณะที่แนวโน้มภาพรวมช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะมีดีมานด์ต่อเนื่อง หลังจากได้พบกับผู้นำเข้าสินค้าที่สหรัฐฯ เนื่องจากอัตราภาษีฯ ของไทย-สหรัฐฯ ที่ 19% ต่ำกว่าเวียดนามเล็กน้อยและเท่ากับมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกหลักในอาเซียน รวมถึงไทยใช้วัตถุดิบในประเทศ (Local Content) เป็นส่วนใหญ่ จึงมีความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน

ทั้งนี้ บริษัทฯ วางแผนขยายการลงทุนในครึ่งปีหลัง เพื่อมุ่งสู่ผู้นำธุรกิจบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศครบวงจรระดับภูมิภาค และปรับพอร์ตรายได้ในปัจจุบันที่มาจาก 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1) กลุ่มธุรกิจบริการ Sea Freight (ขนส่งสินค้าทางทะเล) ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลักกว่า 90%, 2) กลุ่มธุรกิจบริการ Air Freight (ขนส่งสินค้าทางอากาศ) จะมุ่งเพิ่มสัดส่วนรายได้เพื่อลดการพึ่งพารายได้จากธุรกิจ Sea Freight ในอนาคต และ 3) กลุ่มธุรกิจบริการสนับสนุนงานบริการโลจิสติกส์ เช่น คลังสินค้าให้เช่า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นและสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต 

ล่าสุด คณะกรรมการ (บอร์ด) อนุมัติให้บริษัท เอสเอ็นซี คาร์โก้ เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ SNC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SINO เข้าถือหุ้น 100% ในบริษัท เอ.เอส. โลจิสติคส์ จำกัด หรือ A.S.L. ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติไทยที่ดำเนินธุรกิจบริการ Air Freight Forwarder โดยใช้งบลงทุน 35 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพธุรกิจและทำให้ SINO มีต้นทุนการบริการ Air Freight ลดลง โดยคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2568 โดยทีมผู้บริหารชุดเดิมของเอ.เอส. โลจิสติคส์ จะบริหารงานต่อไป ขณะเดียวกัน จะยกระดับธุรกิจของ SNC ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบิน หรือ Cargo General Sales Agent (GSA) เพื่อขายระวางสินค้าแก่ Freight Forwarder โดยตั้งเป้าหมายว่าในปี 2569 กลุ่มธุรกิจ Air Freight จะทำรายได้กว่า 200 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 3% ของรายได้จากการบริการรวม และจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 5% ของรายได้จากการบริการรวมใน 3-5 ปีข้างหน้า 

นายนันท์มนัส กล่าวว่า นอกจากการลงทุนขยายธุรกิจบริการ Air Freight บริษัทฯ ได้วางแผนขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ SINO Worldwide เพื่อเพิ่มศักยภาพการบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยหลังจากร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์ในมาเลเซีย จัดตั้งบริษัท Sino Worldwide Logistics SDN. BND และสำนักงานที่ประเทศมาเลเซียในปี 2567 โดย SINO ถือหุ้น 51% เพื่อสนับสนุนแผนการเพิ่มปริมาณขนส่งสินค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 800 ตู้ต่อเดือนในครึ่งปีหลังของปี 2568 จากเฉลี่ย 700 ตู้ต่อเดือนในครึ่งปีแรก ส่วนในประเทศเวียดนาม บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัท Sino Worldwide Vietnam Co.,Ltd และสำนักงานเมื่อเดือนเมษายน 2568 โดย SINO ถือหุ้น 60% ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณขนส่งสินค้าเฉลี่ย 250 ตู้ต่อเดือนในครึ่งปีหลังของปี 2568 นอกจากนี้ จะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนและสำนักงานที่อินโดนีเซีย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส 2 ปี 2569 

ขณะที่ธุรกิจบริการสนับสนุนงานบริการโลจิสติกส์ SINO เตรียมเปิดบริการคลังสินค้าปลอดอากร (Free Zone) พื้นที่เกือบ 6,000 ตารางเมตร ภายในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ในเดือนตุลาคม 2568 ซึ่งจะเพิ่มพื้นที่คลังสินค้ารวมเป็นกว่า 33,000 ตารางเมตร และวางแผนลงทุนคลังสินค้าปลอดอากรแห่งใหม่ในจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อกระจายทำเลและขยายพื้นที่คลังสินค้ารวมเป็น 50,000 ตารางเมตร 

นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างลงทุนเทคโนโลยีดิจิทัลภายใต้ชื่อโครงการ VOYA ประกอบด้วย 1) การพัฒนาและติดตั้งระบบ Freight Cloud System เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความรวดเร็วแม่นยำของการบริหารกระบวนการขนส่งสินค้า รวมถึงติดตามสถานะแบบเรียลไทม์ และ 2) ติดตั้งระบบ SAP S4/HANA ซึ่งเป็นระบบ ERP อันดับหนึ่งของโลก เพื่อบริหารงานบัญชีและการเงิน เพิ่มประสิทธิภาพด้านความถูกต้อง โปร่งใส และการตรวจสอบที่เป็นระบบ 

ด้านนายสิทธิกร ทับเที่ยง กรรมการผู้จัดการ เอ.เอส. โลจิสติคส์ กล่าวว่า บริษัทฯ มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญการดำเนินธุรกิจบริการ Air Freight Forwarder กว่า 38 ปี โดยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินกว่า 5 สายการบิน ครอบคลุมเส้นทางในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐฯ โดยปัจจุบันมีฐานลูกค้ากว่า 80 ราย ขณะที่การเข้ามาถือหุ้นของ SINO จะเพิ่มศักยภาพขยายธุรกิจและฐานลูกค้า

ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดการณ์ภาพรวมอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าทางอากาศปี 2568 – 2569 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของธุรกิจการบินและการเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศ ส่งผลดีต่อพื้นที่ระวางสินค้าที่จะเพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ จะเพิ่มทีมงานฝ่ายขายเพื่อขยายฐานลูกค้าและทำโรดโชว์ให้ข้อมูลกับสายการบินต่างๆ ภายใต้การสนับสนุนจาก SINO ซึ่งคาดว่าจะทำให้บริษัทฯ มีรายได้ 100 ล้านบาทในปี 2568 และเพิ่มขึ้นเป็น 200 ล้านบาทในปี 2569