Phones





FLOYD โชว์งบ 9 เดือน รายได้ทะลุเป้าปี 68 กำไรโต 223.51%

2025-11-16 19:58:07 105



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - FLOYD ประกาศผลงานงวด 9 เดือนทำรายได้รวม 652 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 63% และกำไรสุทธิพุ่งกว่า 223% รับแรงหนุนจากงานระบบประกอบอาคาร และงาน Data Center ตามกระแสการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของกลุ่มทุนต่างชาติในไทย
 
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 นางสาวลักษมี เลิศศุภกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานสนับสนุนธุรกิจ บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2568 บริษัทมีรายได้จากงานวิศวกรรมประกอบอาคารจำนวน 652.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.94% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 81.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 223.51% ตามแรงส่งของทั้งรายได้ที่เพิ่มขึ้นและการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ หนุนให้ภาพรวมของความสามารถในการสร้างรายได้และกำไร ของบริษัทฯ เติบโตเพิ่มขึ้น
 
สำหรับผลงานที่เติบโตแบบก้าวกระโดด มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ในทุกกลุ่มธุรกิจ รวมถึงการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโตโดดเด่น โดยเฉพาะงาน Data Center ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย ที่มีความต้องการศูนย์ข้อมูลเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากทั้ง Big Tech และกลุ่มทุนต่างประเทศที่เลือกไทยเป็นฐานลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความต้องการของ Cloud Service, AI, E-commerce และธุรกิจดิจิทัล งาน Data Center จึงถือเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในปีนี้
 
อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถทำรายได้ในปี 2568 ทะลุเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 650 ล้านบาทได้ตั้งแต่ก่อนไตรมาสสุดท้าย ซึ่งส่งสัญญาณว่าช่วงโค้งสุดท้ายของปีจะยังคงเติบโตที่ดี พร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่ต่อเนื่องเพื่อเสริม Backlog สำหรับปีถัดไป โดยมุ่งเน้นในกลุ่มลูกค้าหลัก โครงการอาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย ห้างสรรพสินค้า โรงงาน และงาน Data Center รุกตลาดใหม่ ขานรับเมกะเทรนด์ “ท่องเที่ยว–อาหาร–ดิจิทัล”
 
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าขยายฐานรายได้ระยะยาวผ่านบริษัทลูก Be Energy เพื่อรุก 2 กลุ่มธุรกิจที่กำลังเติบโตสูงในประเทศไทย และสอดคล้องกับเมกะเทรนด์สำคัญ ได้แก่ “อาหาร–สุขภาพ” และ “ท่องเที่ยว” ได้แก่ 1.โรงงานอาหารและยา (Food & Pharma Plant) ที่เติบโตต่อเนื่อง ประเทศไทยเป็นหนึ่งในฐานผลิตอาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพระดับภูมิภาค ความต้องการโรงงานใหม่และการอัปเกรดมาตรฐาน GMP/HACCP เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการระบบ M&E ขั้นสูง เช่น Cleanroom และระบบ HVAC ควบคุมคุณภาพอากาศ เติบโตตามไปด้วย Be Energy จะเข้าไปให้บริการงานระบบเฉพาะทางในตลาดที่มีดีมานด์ชัดเจนนี้
 
2.ตลาดรีโนเวทโรงแรม ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของท่องเที่ยวไทย ภาคท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวแรง ส่งผลให้โรงแรมจำนวนมากเร่งปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ระบบปรับอากาศ–ไฟฟ้า–ดับเพลิง และงานประหยัดพลังงาน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นหลายล้านคนต่อปี บริษัท บี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด จึงมีโอกาสเติบโตในตลาดโรงแรมที่กำลังรีโนเวทครั้งใหญ่เพื่อแข่งกันดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพ
 
โดยกลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยกระจายความเสี่ยง เพิ่มรายได้ที่สม่ำเสมอ และสร้างความมั่นคงให้กลุ่มบริษัทในระยะยาว ด้านมิติการพัฒนาองค์กร คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าร่วมโครงการ Jump+ ของตลาดหลักทรัพย์ เพื่อยกระดับโครงสร้างองค์กร กระบวนการทำงาน ระบบข้อมูล และการกำกับดูแลกิจการให้สอดคล้องกับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต ซึ่งการเข้าร่วม Jump+ ถือเป็นก้าวสำคัญของ FLOYD ในการวางรากฐานเพื่อการเติบโตในอีก 3–5 ปีข้างหน้า โดยไม่เพียงมุ่งหวังการเติบโตของรายได้ แต่ต้องการยกระดับทั้งองค์กรให้พร้อมแข่งขันในยุคที่โครงการมีความซับซ้อนมากขึ้น เช่น Data Center, โครงการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ และงานวิศวกรรมเทคนิคระดับสูงอื่น ๆ อีกด้วย