Phones





SEAFCO ใกล้เวลาฟื้นไข้โควิด

2021-10-14 21:26:39 2579



SEAFCO ใกล้เวลาฟื้นไข้โควิด ​ (สกู๊ปพิเศษ)​


หลังจากเผชิญมรสุมการระบาดของโควิด-19 รวมถึงการที่รัฐบาลออกมาตรการล็อกดาวน์ และการปิดแคมป์คนงานในช่วงที่ผ่านมา จนสั่นคลอนผลประกอบการของ “SEAFCO” จนถึงขั้นมีผลขาดทุนในช่วงไตรมาส 2/64 และมีแนวโน้มขาดทุนต่อเนื่องในไตรมาส 3/64 ทั้งที่ผลประกอบการเคยเติบโตอย่างโดดเด่นมาตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา 

ดร.ณรงค์ ทัศนนิพันธ์ แม่ทัพใหญ่ของ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO เปิดใจว่า ธุรกิจในปีนี้เป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตอนไหนบ้าง การระบาดของโควิดจะรุนแรงขึ้นมาอีกหรือไม่ หรือจะมีการล็อกดาวน์เกิดขึ้นอีกหรือเปล่า 

"แต่ตลอดช่วงที่ผ่านมา​ เราก็พยายามประคับประคองธุรกิจให้ดีที่สุด เราพยายามหางานใหม่เข้ามาต่อเนื่อง​ โดยไม่ต้องไปสนใจแล้วว่างานจะเล็กจะใหญ่ หรือจะต้องมาร์จิ้นเยอะ ภาวะแบบนี้ขอแค่มีงานก็พอใจแล้ว" 

โดยในเดือน​ ต.ค.นี้ บริษัทเพิ่งจะรับงานใหม่เข้ามาอีก 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 133.62 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2, โครงการอาคาร P5 (บางส่วน) และฟอรั่ม (3 ต้น) สำหรับโครงการ วัน แบงค็อก, โครงการศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย (งานเสาเข็มเจาะ) ถ.เจริญนคร  

อย่างไรก็ตาม ยังมีงานที่รอผลการประมูลอีกหลายโครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 7,600 ล้านบาท ซึ่งคาดหวังว่าในช่วงต้นปี 65 จะมีการรับงานใหม่เข้ามาเพิ่มเติมคิดเป็นมูลค่าราว 600 – 700 ล้านบาท และมีโอกาสที่ในปี 65 จะเห็นการลงทุนทั้งของภาครัฐและเอกชนเพิ่มขึ้น หากไม่มีการระบาดของโควิดที่รุนแรงขึ้นมาอีก

“เรายังไม่เห็นสัญญาณว่าจะมีการลงทุนโครงการอะไรที่มีขนาดใหญ่ หากปีหน้าจะเห็นเอกชนลงทุนบ้าง​ ก็อาจจะเป็นโครงการเล็กๆ​ เท่านั้น ก็ต้องรอดูว่าถ้าปีหน้าไม่มีสถานการณ์อะไรที่เลวร้ายก็น่าจะเห็นการเดินหน้าโครงการภาครัฐได้บ้าง แต่หากพูดตรงๆ​ ถ้ามีการลงทุนโครงการใหญ่ๆ​ ตอนนี้ก็คงไม่เป็นผลดีต่อเราเท่าไหร่ ปัญหาสำคัญตอนนี้คือการขาดแคลนแรงงาน ซึ่งก็เป็นอุปสรรคที่เราจะรับงานเข้ามามากๆ” ดร.ณรงค์ กล่าว

 
สำหรับภาพรวมผลประกอบการปี 64 ดร.ณรงค์ ยอมรับว่าคงไม่ดีแน่นอนหากเทียบกับช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะช่วง 8-9 เดือนของปี​ แทบจะหายไปเลย เพิ่งจะกลับมาเริ่มทำงานอย่างเต็มที่ได้แค่ 1-2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งหวังว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/64 จะกลับมาฟื้นตัวได้บ้าง โดยตอนนี้มีงานในมือ (Backlog) อยู่ราว 1,500 ล้านบาท ซึ่งก็พยายามเร่งส่งมอบให้ได้มากที่สุด

ต้องคอยติดตามกันต่อไปว่า SEAFCO จะกลับมาสร้างผลงานอย่างโดดเด่นเหมือนอย่างตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้หรือไม่.