นิวส์ คอนเน็คท์ – “อุตตม” ไม่กังวลค่าเงินบาทแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 6 ปี มั่นใจแบงก์ชาติดูแลได้อย่างเหมาะสม แต่มองเป็นผลบวกต่อภาคการนำเข้าสินค้าและเครื่องจักร พร้อมแนะผู้ส่งออกปรับตัว ด้าน “ชิมช้อปใช้ เฟส 2” อยู่ระหว่างการศึกษา คาดเปิดให้ลงทะเบียนช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2562 นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่ค่าเงินบาทมีการปรับตัวแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง และช่วงเช้าวันนี้ทำระดับแข็งค่าสูงสุดในรอบ 6 ปีนั้น มองว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีการดูแลค่าเงินบาทอย่างเหมาะสมแล้ว รวมทั้งในบางช่วงเวลาก็ได้มีการออกมาตรการดูแลเพื่อให้เงินบาทสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของเศรษฐกิจให้มากที่สุด  

อย่างไรก็ตาม การที่ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่านั้น มองว่าจะมีทั้งส่วนได้และส่วนเสีย โดยเงินบาทที่แข็งค่ามากขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออก แต่ในอีกมุมหนึ่งก็เป็นจังหวะที่ดีต่อภาคธุรกิจที่ต้องการลงทุน ทั้งในส่วนของการนำเข้าสินค้า หรือนำเข้าเครื่องจักร ซึ่งจะช่วยให้มีความได้เปรียบในเรื่องของต้นทุนนำเข้าที่ลดลง

สำหรับมาตรการ “ชิมช้อปใช้” เฟส 2 นั้น ปัจจุบันสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อยู่ระหว่างการศึกษา โดยคาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ภายในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งมาตรการดังกล่าวต้องการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี โดยเฉพาะการออกเดินทางไปใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในเมืองรอง ซึ่งประชาชนที่ได้ลงทะเบียนในเฟสแรกแล้วนั้น ยังสามารถเข้าร่วมในเฟส 2 ได้

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นคาดว่าจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ “ชิมช้อปใช้” ในเฟส 2 อาจมีจำนวนน้อยกว่าเฟสแรก ซึ่งอาจจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนจำนวน 5 ล้านคน โดยปัจจุบันทาง สศค. อยู่ระหว่างกำหนดรูปแบบ และแก้ไขการยืนยันตัวตนเพื่อให้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการมีความสะดวกมากขึ้น

“มาตรการ ชิมช้อปใช้ เฟส 2 อาจจะเปลี่ยนเวลาการลงทะเบียน เพื่อไม่ให้ประชาชนต้องมาลงทะเบียนในช่วงดึก โดยมาตรการเฟส 2 คาดว่าจะออกมาในช่วงเวลา พ.ย.-ธ.ค.นี้ เพื่อร่วมกันฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ส่วนค่าใช้จ่ายจะสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้หรือไม่นั้น คงต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง” นายอุตตม กล่าว