Phones





TISCOโชว์กำไรโตสูง10.9% รายได้แบงก์แอสชัวรันส์ฟื้น

2022-07-14 20:20:27 257



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - TISCO แจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 2/65 มีกำไรสุทธิ 1,848 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.9% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน รับแรงหนุนจากการการเติบโตของสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค โดยสินเชื่อในกลุ่มจำนำทะเบียนขยายตัว 4.5% จากสิ้นปี 64 ด้านผลประกอบการครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิ 3,644 ล้านบาท เติบโต 6.2%
 
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2565 นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิสำหรับผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกของปี 65 จำนวน 3,644 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.2% จากช่วงเดียวกันของปี 64 เนื่องมาจากการปล่อยสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคที่กลับมาขยายตัวอีกครั้งตามแผนการขยายสาขา “สมหวัง เงินสั่งได้” อีกทั้งธุรกิจนายหน้าประกันภัยเริ่มมีการฟื้นตัว ตามการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจเมื่อเทียบกับปีก่อน ในส่วนของค่าใช้จ่ายสำรองผลขาดทุนด้านเครดิต (ECL) ปรับลดลง สอดรับกับคุณภาพสินทรัพย์ของพอร์ตสินเชื่อที่ปรับตัวดีขึ้น 
 
โดยกลุ่มทิสโก้ มีสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ลดลงมาอยู่ในระดับต่ำที่ 2.2% ของสินเชื่อรวม และยังคงรักษาระดับเงินสำรองต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่แข็งแกร่งที่ถึง 253% อย่างไรก็ตามธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนอ่อนตัวลง ตามภาวะตลาดทุนที่ไม่เอื้ออำนวย โดยรายได้จากทั้งธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุนมีการชะลอตัว รวมถึงผลกำไรจากเงินลงทุนที่ปรับตัวลดลง
 
ทั้งนี้ ในระยะข้างหน้าแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 จะมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงมาตรการผ่อนคลายการเปิดรับนักท่องเที่ยวจะส่งผลในเชิงบวกต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่การเร่งตัวขึ้นอย่างมากของเงินเฟ้อที่มีแรงหนุนจากราคาพลังงานและราคาสินค้า จะส่งผลลบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจและทำให้รายได้ที่แท้จริงของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนปรับตัวลดลง นอกจากนี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะอันใกล้นี้ ยังจะลดทอนความสามารถในการชำระหนี้ของภาคครัวเรือนโดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบางได้ ดังนั้นจึงถือเป็นปัจจัยความท้าทายของภาคธุรกิจที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด 
 
ขณะที่ผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้งวดไตรมาส 2/65 มีกำไรสุทธิจำนวน 1,848 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.9% จากไตรมาส 2/64 เนื่องมาจากการกลับมาเติบโตของสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค โดยสินเชื่อในกลุ่มจำนำทะเบียนขยายตัว 4.5% จากสิ้นปี 64 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเติบโตผ่านช่องทาง “สมหวัง เงินสั่งได้” นอกจากนี้ รายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์ปรับตัวดีขึ้น 11.7% ตามการฟื้นตัวของธุรกิจนายหน้าประกันภัย
 
ในส่วนของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 0.3% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย เป็นไปตามการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่เกี่ยวกับตลาดทุนชะลอตัวลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยรายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 29.0% จากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ลดลง และรายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานจากธุรกิจจัดการกองทุนอ่อนตัวลง 15.5% จากการกองออกทุนใหม่ที่ลดลงในสภาวะตลาดทุนที่ซบเซา
 
สำหรับการดำเนินธุรกิจของกลุ่มทิสโก้ในช่วงที่เหลือของปี 65 จะยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยยึดหลักการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมกับผลตอบแทน และมองหาโอกาสใหม่ ๆ ท่ามกลางความท้าทายที่เกิดขึ้น พร้อมปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยยกระดับการให้บริการลูกค้า ผสมผสานกับการให้คำแนะนำที่ดีและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มแก่ลูกค้าในทุกกลุ่มธุรกิจ รวมถึงให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อนต่อเนื่อง