นิวส์ คอนเน็คท์ – กรุงศรี ประเมินเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 30.00-30.40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ต่างชาติเทขายเงินลงทุนในตลาดหุ้น แต่ยังเข้าซื้อพันธบัตรกว่า 2.6 พันล้านบาท พร้อมคาด กนง.ปรับลดดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ หลังภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 62 นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยมีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.00-30.40 ต่อดอลลาร์เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 30.17 ต่อดอลลาร์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังทดสอบระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 6 ปีอีกครั้ง

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 6.5 พันล้านบาท แต่มีการซื้อพันธบัตรสุทธิ 2.6 พันล้านบาท ส่วนเงินดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับตัวตัวลง โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ 1.50-1.75% และส่งสัญญาณว่าอาจหยุดการลดดอกเบี้ยในระยะถัดไปยกเว้นว่าเศรษฐกิจจะย่ำแย่ลง

โดยฝ่ายวิจัยมองว่า ตลาดจะให้ความสนใจกับดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯ และความคืบหน้าประเด็นการค้า หลังข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.ออกมาดีกว่าที่คาดไว้ ส่วนประธานเฟดระบุว่ามีความหวังว่าสหรัฐฯ และจีนจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟส 1 ซึ่งอาจช่วยลดความไม่แน่นอนลง อย่างไรก็ตาม คาดว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยลงอีกครั้งในปี 63 หากแรงส่งด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจแผ่วลง รวมทั้งคาดว่าธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.75% ในการประชุมสัปดาห์นี้ ส่วนความไม่แน่นอนเรื่อง Brexit ลดลงแต่ค่าเงินปอนด์จะยังคงมีทิศทางผันผวนก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 12 ธ.ค.62

สำหรับปัจจัยภายในประเทศคาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.25% ในการประชุมวันที่ 6 พ.ย. ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและเงินเฟ้อทั่วไปต่ำสุดในรอบ 28 เดือน ขณะที่ธปท.ระบุว่าการส่งออกเดือนก.ย.หดตัวต่อเนื่องตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ส่วนการบริโภคภาคเอกชนเติบโตใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้าแม้จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐแต่กำลังซื้อโดยรวมอ่อนแรงต่อเนื่อง โดยทางการมองว่าจีดีพีไตรมาส 3/2562 อาจต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ว่าจะเติบโต 2.9%

อย่างไรก็ตาม ธปท.คาดว่าเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายของปีจะกระเตื้องขึ้นจากมาตรการภาครัฐและการท่องเที่ยว ซึ่งทางฝ่ายวิจัยมองว่าหากกนง.ตัดสินใจคงดอกเบี้ยในรอบนี้ ยังคงมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. โดยการส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบาย การประเมินความเสี่ยงด้านต่ำของเศรษฐกิจและความเสี่ยงด้านเสถียรภาพในระยะยาวจะเป็นประเด็นที่กระทบราคาสินทรัพย์สกุลเงินบาท

#โกลบอลมาร์เก็ตส์
#รุ่งสงวนเรือง
#ลดดอกเบี้ย
#BAY
#กนง.