Phones





กกร.สะกิดรัฐบาลเร่งกระตุ้นศก.พยุงจีดีพี

2019-12-04 16:54:44 548




นิวส์ คอนเน็คท์ – กกร. กัดฟันคงเป้าจีดีพีของไทยปี 62 ขยายตัว 2.7-3% แม้สัญญาณบ่งชี้ทางเศรษฐกิจเดือนต.ค.ยังชะลอตัว พร้อมยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น หวังช่วยพยุงตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/62 ไม่ให้ทรุดหนักกว่าปัจจุบัน พร้อมสะกิดแบงก์ชาติเร่งเข้าดูแลค่าเงินบาท หวั่นแข็งค่ามากขึ้นจะกระทบเศรษฐกิจรุนแรง


เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า กกร.ยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 62 จะขยายตัวที่ระดับ 2.7-3% แม้เศรษฐกิจของไทยในไตรมาส 3/62 จะขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้ และเครื่องบ่งชี้เศรษฐกิจเดือน ต.ค. ซึ่งเป็นเดือนแรกของไตรมาส 4/62 ทั้งตัวเลขการส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังคงชะลอตัว


นอกจากนี้ สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังไม่ชัดเจน โดยมีเพียงการใช้จ่ายในหมวดสินค้าไม่คงทนและการท่องเที่ยวที่ยังสามารถขยายตัว แต่ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการของภาครัฐ ทั้งในส่วนของโครงการชิมช้อปใช้ และ การยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa on Arrivals ให้แก่นักท่องเที่ยว โดยที่ประชุม กกร.เห็นว่ารัฐบาลควรเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปีนี้ เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจไตรมาส 4/62 ต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 1/63 ปรับตัวดีขึ้น และรักษาระดับการเติบโตของเศรษฐกิจไม่ให้ชะลอตัวไปมากกว่าปัจจุบัน


อย่างไรก็ตาม กกร.อาจจะมีการทบทวนประมาณการตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยปี 63 ในการประชุมเดือน ม.ค. 63 เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในระยะข้าหงน้ายังขาดแรงหนุนให้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว จากความไม่แน่นอนเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมไปถึงการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทย  


นอกจากนี้ ความล่าช้าของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ยังมีผลต่อการลงทุนของภาครัฐ และเป็นข้อจำกัดหากรัฐบาลจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะนี้มีผู้สนใจที่จะมาลงทุนในไทยจำนวนมาก เนื่องจากพื้นฐานทางเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง และมีเงินทุนสำรองค่อนข้างมาก ถึงแม้ว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น หากการเมืองนิ่ง และ มีเสถียรภาพ นักลงทุนก็มีความมั่นใจที่จะเข้ามาลงทุน


ทั้งนี้ กกร.ขอเสนอให้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนี้ มาตรการ ช้อปช่วยชาติ โดยให้บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าอุปโภค บริโภค รวมทั้งของขวัญปีใหม่ มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท มาตรการภาษี เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว และการจัดอบรมสัมมนาในจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง โดยได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันไม่เกิน 15,000 บาท และของนิติบุคคลไม่เกิน 1.5 เท่าของค่าใช้จ่ายจริง รวมถึงเร่งการลงทุนภาครัฐเพื่อให้เกิดการลงทุนต่อเนื่องของภาคเอกชน  


สำหรับประเด็นการแข็งค่าของเงินบาทตามที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% อยู่ที่ 1.25% เพื่อจะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัว และได้ปรับเกณฑ์ 4 มาตรการเพื่อลดแรงกดดันค่าเงินบาท โดย กกร. เห็นว่า มาตรการต่างๆ ที่ออกมาอาจช่วยให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าในระยะสั้น จึงขอให้ ธปท.พิจารณามาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือ SMEs โดยหากยังปล่อยให้ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องจะส่งผลกระทบในระยะยาว