Phones





กรุงศรีสั่งจับตาสถานการณ์ตะวันออกกลาง

2020-01-06 16:11:23 768




นิวส์ คอนเน็คท์ - กรุงศรี ประเมินทิศทางค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง หลังสัปดาห์ก่อนทำระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 6 ปีครึ่ง พร้อมสั่งจับตาสถานการณ์สหรัฐฯ-อิหร่าน ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันและทองคำ


เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2563 นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า ทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.00-30.30 บาทต่อดอลลาร์เทียบกับระดับปิดทรงตัวที่ 30.15 บาทต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเงินบาทเข้าทดสอบระดับแข็งค่าสุดในรอบ 6 ปีครึ่งอีกครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 1.2 พันล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตร 1.6 พันล้านบาท ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยหลายช่วงอายุแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่


ทั้งนี้ ในปี 62 เงินบาทแข็งค่าสุดในกลุ่มสกุลเงินเอเชียด้วยการปรับขึ้นมากกว่า 8% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย 4.5 หมื่นล้านบาท และ 7.9 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) ระยะ 2 ปี ลดลง 0.62% และ 10 ปี ร่วงลง 1.02% ส่วนเงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินยูโรและเงินปอนด์หลังข้อมูลเศรษฐกิจของยุโรปและอังกฤษบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวช้า


ขณะที่เงินเยนแข็งค่าขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรในตลาดสำคัญหลายแห่งปรับลดลงโดยกลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า ตลาดจะให้ความสนใจกับตัวเลขภาคบริการและการจ้างงานของสหรัฐฯ เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยในระยะถัดไป อีกทั้งนักลงทุนยังคงรอความชัดเจนการทำข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน


นอกจากนี้ ตลาดจะจับตาราคาน้ำมันและทองคำท่ามกลางความขัดแย้งในตะวันออกกลางซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นหลังการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯในอิรัก โดยอิหร่านประกาศจะแก้แค้นให้กับผู้บัญชากองกำลังของอิหร่านซึ่งถูกลอบสังหารในเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งคาดว่าการประเดิมปีชวดด้วยความเสี่ยงด้านรัฐภูมิศาสตร์จะทำให้เงินเยนได้แรงหนุน ขณะที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของตลาดหลักปรับตัวลดลง การพุ่งขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกอาจกระตุ้นการส่งออกทองคำของกลุ่มผู้ค้าทองในประเทศ ซึ่งอาจจำกัดการอ่อนค่าของเงินบาท


สำหรับปัจจัยในประเทศ รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ระบุว่ากนง.กังวลต่อการแข็งค่าของเงินบาทและผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แม้ระยะหลังเงินบาทเคลื่อนไหวสองทางมากขึ้น ด้านกระทรวงการคลังกล่าวว่ายังมีทั้งเครื่องมือทางการเงินและการคลังที่สามารถจะดำเนินการได้แต่ในปัจจุบันยังไม่มีแนวคิดเรื่องมาตรการภาษีเพื่อดูแลค่าเงินบาท อนึ่ง เรามองว่าสภาพคล่องการซื้อขายที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังรอยต่อช่วงปีใหม่ทำให้เงินบาทมีเสถียรภาพมากขึ้น อย่างไรก็ดี ปัจจัยต่างประเทศยังมีความไม่แน่นอนสูงและจะชี้นำตลาดเกิดใหม่รวมถึงสินทรัพย์สกุลเงินบาทต่อไป


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ News Connext เชื่อมต่อข่าวเศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน