Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
COCOCO ติดอันดับดัชนี SET 100 ปักธงรายได้แตะหมื่นล. - DEMCO Backlog ทะลุ 3.6 พันล.
MAI
LEO ส่งซิกผลงาน Q4/67 สดใส มั่นใจสร้างผลตอบแทนผถห.ต่อเนื่อง
IPO
PIS จัดทัพโรดโชว์ จ่อขายไอพีโอ Q1/68
บล./บลจ
ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ไฟเขียวผู้เสียหายจาก STARK ดำเนินคดีแบบกลุ่ม
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
กรุงศรี ชี้เงินบาทเคลื่อนไหว 34.25 บ. หลัง กนง. ตรึงดอกเบี้ย
การค้า - พาณิชย์
พาณิชย์หนุน SME ใช้ FTA ลดเสี่ยง “ทรัมป์ 2.0”
พลังงาน - อุตสาหกรรม
TSE ชนะประมูลโรงไฟฟ้าสีเขียวเฟส 2 รวม 136.1 MW
คมนาคม - โลจิสติกส์
“สุริยะ” สั่งเฝ้าระวังเหตุน้ำท่วมภาคใต้ 6 จังหวัด
แบงก์ - นอนแบงก์
KBANK หนุนงานวิจัยหาแนวทางสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
‘มันนี่ทันเดอร์’ คว้ารางวัล Prime Minister’s Export Award 2024
SMEs - Startup
บีคอน วีซี เดินหน้ากองทุน Beacon Impact Fund
ประกันภัย - ประกันชีวิต
เมืองไทยประกันชีวิต ชูแบบประกันพิเศษ - โปรโมชันเด่น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
รถยนต์
กระหึ่มโลก! “เปิดฤดูกาล MotoGP2025” ครั้งแรกในไทย
ท่องเที่ยว
ทีทีบี ชวนเที่ยว “พิพิธภัณฑ์ครุฑ” ช่วงเทศกาลปีใหม่
อสังหาริมทรัพย์
ORN เปิดรอบพิเศษในงาน EXCLUSIVE AGENT DAY
การตลาด
EURO ขึ้นแท่นตัวแทนจำหน่าย Bang & Olufsen
CSR
บีคอน วีซี เดินหน้ากองทุน Beacon Impact Fund
Information
EXIM BANK ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย-ออสเตรเลีย
Gossip
SINO คาดผลงาน Q4/67 แข็งแกร่ง
Entertainment
IMET MAX สานต่อการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ปีที่ 7 เสริมทัพอุทยานผู้นำ
สกุ๊ป พิเศษ
CHAYO รุกซื้อหนี้เติมพอร์ต อัพผลงานโตเกิน 20%
‘ผยง’ แนะ 3 แนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจนอกระบบ พลิกเศรษฐกิจไทย
2024-02-16 18:24:43
90
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ - ประธานสมาคมธนาคารไทย ร่วมเวทีสัมมนา “พลิกเศรษฐกิจไทย ก้าวต่อไปอย่างยั่งยืน” ชี้ 3 แนวทางลดขนาดเศรษฐกิจนอกระบบ เพื่อแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ด้วยการลดต้นทุนแฝงระบบเศรษฐกิจ หนุน SME เข้าสู่ธุรกิจในระบบ และแก้หนี้นอกระบบ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเติบอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยบนเวที ibusiness Forum 2024 “RESHAPING THAILAND FOR A SUSTAINABLE FUTURE พลิกเศรษฐกิจไทย ก้าวต่อไปอย่างยั่งยืน” โดยระบุว่า ประเทศไทยมีเศรษฐกิจนอกระบบขนาดใหญ่ ทำให้มีปัญหาในหลายด้าน ทั้ง รายได้ต่อหัวอยู่ในระดับต่ำ มีปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำสูง การกำกับดูแลและธรรมาภิบาลต่ำ มีผลิตภาพอยู่ในระดับต่ำ มีความยืดหยุ่นและภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับต่ำ สะท้อนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังวิกฤติโควิด-19 อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าประเทศที่มีเศรษฐกิจนอกระบบเล็กกว่า และมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ช้ากว่า โดยภาพสะท้อนความรุนแรงของปัญหาเศรษฐกิจนอกระบบของไทย คือ
1.ประเทศไทยมีเศรษฐกิจนอกระบบคิดเป็นสัดส่วนถึง 48.4% ของ GDP มากเป็นอันดับ 14 ของโลก จาก 158 ประเทศที่มีฐานข้อมูลของ World bank โดยสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลกที่อยู่ที่ 32.7% และสูงกว่าเกือบทุกประเทศในเอเชีย, 2.มีผู้ที่อยู่ในฐานระบบภาษีน้อย จากประชากรทั้งหมด 66 ล้านคน มีผู้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพียง 10-11 ล้านคน และมีผู้ที่มีภาระภาษีต้องจ่ายแค่ราว 4 ล้านคนเท่านั้น ทำให้ภาครัฐมีฐานรายได้ที่แคบ และไม่เพียงพอต่อการรองรับรายจ่ายสวัสดิการที่จะเพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่สังคมสูงวัย, 3.แรงงานเกินกว่าครึ่งหนึ่งเป็นแรงงานนอกระบบ ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า มีแรงงานนอกระบบอยู่ราว 20 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 51% ของจำนวนผู้มีงานทำทั้งหมด ซึ่งอาจเป็นกลุ่มที่มีผลิตภาพแรงงานต่ำ มีความเปราะบางจากการขาดความคุ้มครองหรือไม่มีหลักประกันทางสังคม
4.หนี้นอกระบบอยู่ในระดับสูง ท่ามกลางปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 90.7% ต่อ GDP เพิ่มขึ้นจาก 76% เมื่อ 10 ปีก่อน แต่ในจำนวนนี้ยังไม่นับรวมหนี้นอกระบบ ซึ่งอาจมีมูลค่าสูงถึง 3.97 ล้านล้านบาท จากการสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งแปลว่า หนี้ครัวเรือนต่อ GDP อาจสูงถึง 110% นอกจากนี้ ยังขาดแคลนตัวเลขมูลค่าหนี้นอกระบบที่เชื่อถือได้และสอดคล้องกัน เพราะหากดูตัวเลขที่สภาพัฒน์ฯ เปิดเผย จะพบว่าหนี้นอกระบบอยู่ที่ 1.35 แสนล้านบาท ซึ่งต่างกันมากกับตัวเลขผลสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
5.ความเหลื่อมล้ำสูง โดยข้อมูลจาก World Bank ชี้ว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำด้านรายได้และความมั่งคั่งสูง โดยคนไทยที่มีรายได้สูงสุด 10% แรก คิดเป็นสัดส่วน 48.8% ขณะที่คนไทยที่มีความมั่งคั่งสูงสุด 10% แรกคิดเป็นสัดส่วน 74.2% ซึ่งสูงกว่าหลายประเทศในอาเซียน และ 6.มีธุรกิจนอกระบบจำนวนมาก ปัจจุบันมีจํานวน SME อยู่ราว 3.2 ล้านราย แต่เป็นนิติบุคคลเพียง 8.4 แสนราย หรือคิดเป็น 26% หมายความว่า มี SME จำนวนมากถึงเกือบ 2.4 ล้านราย หรือ 74% ที่ไม่มีข้อมูลงบการเงินในระบบฐานข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทำให้ผู้ประกอบการเหล่านี้อาจไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินในระบบธนาคารพาณิชย์ได้ หรือเผชิญต้นทุนที่สูง จากการกู้สินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อไปดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องลดขนาดเศรษฐกิจนอกระบบ เพื่อตอบโจทย์การเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งมีเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ 3 เรื่องคือ 1.ลดต้นทุนแฝงจากเศรษฐกิจนอกระบบ ผลักดันขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยอาศัยข้อมูล เป็น Data Driven Economy และต้องเปิดกว้าง โปร่งใส นำไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้อง ครอบคลุม ลดความเหลื่อมล้ำ โดยจะต้องมีการ design platform ข้อมูลอย่างเป็นระบบ เชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐ ที่กระจัดกระจายอยู่หลายกระทรวง เพื่อให้ประเทศมีเครื่องมือกำหนดเป้าหมายของนโยบายได้ตรงจุด ประเมินผลนโยบายต่างๆ ของรัฐได้อย่างแม่นยำ มีตัวอย่างให้เห็นในประเทศชิลี ที่มีการเชื่อมโยงข้อมูลจากทุกส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ
2.เร่งส่งเสริม SME เข้าสู่ธุรกิจในระบบ โดยมี Incentive ที่เหมาะสม เช่น การเข้าสู่ระบบหรือการเป็นธุรกิจที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายจะสามารถเข้าร่วมโครงการภาครัฐต่างๆ ได้ เป็นประโยชน์ต่อการเข้าถึงสินเชื่อ บนต้นทุนที่เหมาะสม รวมถึงช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ก้าวทันกระแสโลก และส่งเสริมการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ซึ่งไทยมี Gap ที่ต้องเร่งพัฒนาอยู่หลายด้าน ทั้งด้าน Sustainability ด้าน Resilience และด้าน Inclusiveness ทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจต้องเร่งพัฒนาในด้านเหล่านี้อย่างมาก เช่น การยกระดับกฎหมาย เปิดทางให้เกิดประสิทธิภาพ รวมถึงการยกระดับแนวทางการปฏิบัติทางการค้าที่เป็นธรรมกับ SME ทั้งในเรื่องของ Credit Term หรือการรับรองสินค้า เพื่อให้ SME มีอำนาจต่อรองอย่างเป็นธรรมกับรายใหญ่มากขึ้น
3.แก้หนี้นอกระบบ ภาครัฐต้องเร่งเครื่องในการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนโดยเฉพาะหนี้นอกระบบ หลังผลสำรวจพบว่าครัวเรือนมีโอกาสที่จะพึ่งพาหนี้นอกระบบมากขึ้น โดยเฉพาะครัวเรือนรายได้น้อย จากผลสำรวจล่าสุดของ ธปท.สะท้อนว่า ยังมีครัวเรือน 27% ที่เข้าไม่ถึงผู้ให้บริการสินเชื่อในระบบ โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพอิสระ ลูกจ้างเอกชนและลูกจ้างรัฐบาลที่มีรายได้น้อย ทำให้บางส่วนต้องพึ่งพาหนี้นอกระบบ โดยการแก้หนี้นอกระบบต้องทำควบคู่กับการยกระดับรายได้เพราะพบว่า การเป็นหนี้มีสาเหตุสำคัญจากการมีรายได้ไม่พอรายจ่าย พร้อมปฏิรูปข้อมูลหนี้ทั้งในและนอกระบบ สร้างฐานข้อมูลที่ครบถ้วนและเชื่อถือได้มากขึ้น
“การพลิกฟื้นเศรษฐกิจ มีหลายเรื่องต้องทำ ซึ่งแต่ละส่วนก็กำลังเดินหน้า ภาครัฐคงจะมีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในระยะเวลาอันใกล้ ทางบีโอไอ ก็ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติเข้ามา แต่สิ่งที่อยากให้น้ำหนักมากที่สุด คือ เรื่องของ Speed ที่จะต้องทำให้ทันการเปลี่ยนผ่านให้ได้ และทันคนอื่น โดยอยากจะเร่งเศรษฐกิจทั้งหมดเข้าสู่ระบบ ซึ่งภาคเอกชนและภาครัฐจะต้องกล้าดึงทั้งหมดเข้าสู่ระบบ เพื่อจัดสรรทรัพยากรอย่างตรงจุด เพราะเมื่อทุกอย่างเข้าสู่ระบบ โดยเฉพาะในยุค Digital Economy จะเกิดเป็นซัพพลายเชน ทำให้ระบบมีประสิทธิภาพ และเป็นธรรมมากขึ้น” นายผยง กล่าว
COCOCO ติดอันดับดัชนี SET 100 ปักธงรายได้แตะหมื่นล. - DEMCO Backlog ทะลุ 3.6 พันล.
MEDEZE ทุ่มงบ 100 ลบ. ตั้งบ.ย่อยลุยธุรกิจ ‘Health and Wellness’
PCC คว้า 3 โครงการ มูลค่า 273.67 ลบ.
COCOCO ปลื้ม! ติดอันดับคำนวณดัชนี SET 100
DEMCO ปิดดีล! ลุยสร้างสถานีไฟฟ้า มูลค่า 270 ล้านบ.
GUNKUL โบรกฯ เคาะเป้า 5.40 บ./หุ้น - NER ออกหุ้นกู้ อายุ 5 ปี จ่ายดอกเบี้ย 3.41%