นิวส์ คอนเน็คท์ – “สมคิด” ประชุมด่วน หาแนวทางลดผลกระทบจากปัญหาไวรัสโควิด-19 หวั่นฉุดภาคการท่องเที่ยวสาหัส จนเกิดการเลิกจ้างงาน พร้อมสั่งภาครัฐและเอกชนร่วมกันหามาตรการเร่งด่วน เพื่อเข้าดูแลผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ แย้มอยู่ระหว่างพิจาณาออกโครงการ “ชิมช้อปใช้ เฟส4” และโครงการซอฟท์โลน

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งช่วยเหลือธุรกิจและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวของไทยที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และมีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจของไทย ซึ่งได้มีการมอบหมายให้กระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย และภาคเอกชน ร่วมกันพิจารณาหามาตรการที่จะลดผลกระทบ และช่วยประคับประคองเศรษฐกิจ

โดยเรื่องดังกล่าว ถือเป็นสิ่งที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความกังวลค่อนข้างมาก โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับการเลิกจ้างแรงงานในส่วนของธุรกิจท่องเที่ยว จึงกำชับให้กระทรวงการคลัง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาแนวทางในการลดผลกระทบดังกล่าวเพื่อให้ผู้ประกอบการยังคงมีการจ้างแรงงานต่อไปเพื่อให้ผ่านช่วงปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมาตรการที่ออกมาจะเป็นทั้งมาตรการด้านการเงิน และมาตรการทางด้านการคลัง ผ่านทางด้านภาษีซึ่งคาดว่าจะมีการมาตรการเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติภายในเดือนมีนาคมนี้

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นคาดว่ามาตรการทางด้านภาษีจะเป็นในรูปแบบ การเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว เพื่อชะลอการเลิกจ้างงานแรงงาน ให้สามารถดูแลพนักงานต่อไปได้ รวมถึงการจูงใจให้คนไทยท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น โดยแนวทาง คือ ให้ผู้สูงอายุเกิน 60 ปี เดินทางท่องเที่ยวในวันธรรมดา และสามารถนำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไปให้บุตรหลานนำมาลดหย่อนภาษีได้ ในส่วนของมาตรการด้านการเงิน ได้ให้ธปท. หารือร่วมกับสมาคมธนาคารไทย ว่าจะมีแนวทางในการออกมาตรการผ่อนปรนสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว รวมถึงการพิจารณาปรับลดภาระดอกเบี้ยบัตรเครดิตให้กับแรงงาน และการบรรเทาภาระหนี้สินจากสินเชื่อประเภทอื่นๆด้วย

ด้านนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มาตรการที่จะออกมาเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและแรงงานที่อยู่ในภาคการท่องเที่ยวนั้น คาดว่าจะพิจารณาแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ ก่อนที่เสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณาเป็นแพ็คเกจใหญ่ ที่จะสามารถประคับประคองเศรษฐกิจในช่วงนี้ให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งเชื่อว่ามาตรการที่ออกมาจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม โดยยืนยันว่ามาตรการที่ออกมาจะช่วยดูแลผู้ประกอบการทุกขนาด ทั้งธุรกิจโรงแรม รวมไปถึงกลุ่มธุรกิจโฮมสเตย์

อย่างไรก็ตาม มาตรการที่ออกมาจะเป็นเพียงมาตรการระยะสั้น ที่ครอบคลุมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือตั้งแต่เมษายน-มิถุนายนนี้เท่านั้น โดยจะเน้นการดูแลแรงงานภาคการท่องเที่ยว ที่แม้ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณการปลดคนงานอย่างมีนัยสำคัญ แต่ต้องมีมาตรการในการรับมือก่อนปัญหาจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะการใช้มาตรการภาษีเข้ามาเพิ่มเงินในกระเป๋าให้กับทั้งผู้ประกอบการ และแรงงาน

นอกจากนี้ จะมีการพิจารณาการออกโครงการ “ชิมช้อปใช้เฟส 4” และโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟท์โลน เพื่อเข้ามาช่วยแก้ปัญหาด้วย แต่ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา และยังไม่ได้มีข้อสรุป แต่จะดำเนินการเรื่องต่างๆให้เร็วที่สุดเพื่อให้เป็นผลบวกต่อภาวะเศรษฐกินในประเทศ

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews