Phones





ก.คลังเร่งอัดงบลงทุนเข้าระบบ6.4แสนล.

2020-02-20 16:06:56 1255




นิวส์ คอนเน็คท์ - รมว.คลังเผย หลายปัจจัยกดดันความเชื่อมั่นนักลงทุน ระบุรัฐเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนเข้าระบบ 6.4 แสนล้านบาท พร้อมหามาตรการรองรับตามแผนยุทธศาสตร์


เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานตลาดทุนพบภาครัฐ ว่า หลายปัจจัยส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลต่อสถานการณ์ในเวลานี้ โดยเฉพาะเหตุการณ์โรคระบาดของไวรัส Covid-19 ทำให้มีผลกระทบต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักอย่างภาคการเท่องเที่ยวในประเทศ รวมถึงยังมีปัจจัยกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ซึ่งทางรัฐบาลได้มีการกำชับ และหามาตรการต่างๆ ออกมาดูแลทั้งระยะสั้นและระยะยาว


โดยรัฐบาลได้ออกมาตรการดูแล และกระตุ้นในส่วนของภาคอุปโภคและบริโภค ให้มีการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะภาคธุรกิจขนาดกลาง และขนาดเล็ก (SME) โดยในปี 2563 รัฐบาลได้มีมาตรการดูแลออกมาแล้วบางส่วน และยังมีการหารือออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มมากขึ้น เพื่อกระตุ้นให้เกินการลงทุนตามแผนยุทธศาสตร์


ทั้งนี้แนวทางการบริหารงบประมาณปี 63 ได้มอบหมายให้สำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลาง เตรียมพร้อมการเบิกจ่าย หลัง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 63 มีผลบังคับใช้ ซึ่งมีงบประมาณทั้งหมดอยู่ที่ 3.2 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นงบลงทุน 6.4 แสนล้านบาท ซึ่งหากงบประมาณมีผลบังคับใช้ จะสามารถอัดเม็ดเงินลงทุนสู่ระบบได้มากกว่า 4 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่เตรียมพร้อมแล้วกว่า 3.5 แสนล้านบาท ส่วนอีก 9.6 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างการทำ TOR ซึ่งคาดว่าจะเข้าสู่ระบบได้ในไตรมาส 2/63


ส่วนงบลงทุนอีก 2.4 แสนล้านบาท อยู่ระหว่างการจัดทำ TOR ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการ 45-50 วัน และคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงสู่ระบบได้ในช่วงไตรมาส 2/63 ถึงไตรมาส 3/63 โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะเร่งขับเคลื่อนการลงทุนให้ได้มากที่สุด


สำหรับการเบิกจ่ายงบประจำขณะนี้อยู่ระหว่างหามาตรการออกมารองรับ โดยเบื้องต้นจะกระตุ้นส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐจัดมีการจัดสัมมนาแผนงานต่างๆ อาทิ แผนงานด้านภัยแล้งที่ดำเนินการไว้แล้ว หากมีการประกาศพื้นที่ภัยแล้งจะสามารถขับเคลื่อนงบประมาณได้ทันที โดยสำนักงบประมาณ เชื่อว่างบประมาณปี 63 จะสามารถเบิกจ่ายได้มากกว่า 80% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้จะมีเวลาการเบิกจ่ายที่จำกัดเพียง 6 เดือนเท่านั้น ส่วนไตรมาส 3/63 คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ 77% ของงบประมาณทั้งหมด ส่วนการลงทุนของภาครัฐวิสาหกิจทั้งปีจะอยู่ที่ 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งภายในเดือนมี.ค.นี้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินในการลงทุนราว 1 แสนล้านบาท และทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้มากกว่า 80%


ด้านนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจ และบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศ ยังมีเสถียรภาพและความแข็งแกร่งสูง สะท้อนจากมูลค่าหนี้สาธารณอยู่ที่ระดับ 4.2% ของ GDP ประกอบกับตัวเลขเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำที่ 1% ส่งผลให้มีขีดความสามารถระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ได้ ซึ่งเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวมเร็ว หากมีความชัดเจน ซึ่งสะท้อนจากในอดีตที่ผ่านมามีการเกิดโรคระบาด หรือเหตุการต่างๆ สภาวะเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นไทยสามารถฟื้นตัวได้ในช่วงเวลาระยะสั้น


นายไพบูลย์ นรินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวว่า นักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น ถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหา ทั้งจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ภัยแล้ง และงบประมาณปี 2563 ที่จะเบิกจ่ายได้ตามปกติ ซึ่งดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับลดลงในช่วงนี้ เป็นความของนักลงทุนระยะสั้น ซึ่งราคาหุ้นในปัจจุบันไม่ได้สะท้อนปัจจัยพื้นฐานในประเทศ ที่ยังแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องมีความชัดเจนในเรื่องของมาตรการต่างๆ ทั้งหมด เพื่อสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุนในระยะยาว


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews