Phones





ครม.ไฟเขียวมาตรการช่วยภาคธุรกิจวงเงิน3.5แสนล.

2021-03-24 07:10:31 505




นิวส์ คอนเน็คท์ – ที่ประชุม ครม. อนุมัติ 2 มาตรการช่วยผู้ประกอบการ ทั้งสินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจวงเงิน 2.5 แสนล้านบาท และมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ วงเงิน 1 แสนล้านบาท 


เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2564 นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ 2 มาตรการประกอบด้วย มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อผู้ประกอบการธรกิจ วงเงิน 250,000 ล้านบาท และมาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ (มาตรการพักทรัพย์ พักหนี้) โดยให้ผู้ประกอบการธุรกิจมีสิทธิซื้อทรัพย์สินคืนภายใน 5 ปี วงเงิน 100,000 ล้านบาท  


โดยมาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อผู้ประกอบการธุรกิจ วงเงิน 250,000 ล้านบาทนั้น จะครอบคลุมผู้ประกอบการที่มีวงเงินและไม่มีวงเงินกับธนาคารพาณิชย์ โดยผู้ประกอบธุรกิจที่มีสินเชื่อกับสถาบันการเงินแต่ละแห่งไม่เกิน 500 ล้านบาท สามารถขอสินเชื่อได้ไม่เกิน 30% ของวงเงินสินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธ.ค.62 หรือ ณ วันที่ 28 ก.พ. 64 แล้วแต่จำนวนใดสูงกว่า แต่ต้องไม่เกิน 150 ล้านบาท  


ขณะที่ผู้ประกอบการที่ไม่มีวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงินแห่งใดแห่งหนึ่ง ณ วันที่ 28 ก.พ. 64 สามารถขอสินเชื่อได้ไม่เกิน 20 ล้านบาท โดยสถาบันการเงินจะคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 2% ต่อปี ในช่วง 2 ปีแรกของสัญญา และเฉลี่ยไม่เกิน 5% ต่อปี ในช่วง 5 ปีแรก ที่สถาบันการเงินได้รับแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  


ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวกำหนดให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นผู้ค้ำประกันสัดส่วน 40% ของวงเงินสินเชื่อภายใต้โครงการ เพื่อลดความเสี่ยงเครดิตของผู้ประกอบการ ซึ่งมีระยะเวลาค้ำประกันไม่เกิน 10 ปี ค่าธรรมเนียมการค้ำประกันเฉลี่ยไม่เกิน 1.75% ต่อปี และรัฐบาลชดเชยค่าธรรมเนียมดังกล่าวเฉลี่ยไม่เกิน 3.5% ต่อปี ตลอดสัญญา โดยกระทรวงมหาดไทย จะลดหย่อนค่าธรรมเนียมการจดจำนองทรัพย์ค้ำประกันจากการดำเนินการตามมาตรการสินเชื่อฟื้นฟู เหลือ 0.01% ต่อปี เพื่อลดภาระให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจ  


สำหรับมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ วงเงิน 100,000 ล้านบาท จะสนับสนุนผู้ประกอบการไม่ต้องรับภาระต้นทุนทางการเงินเป็นการชั่วคราว และไม่ถูกบังคับให้ขายสินหลักประกันในราคาต่ำกว่าสภาพความเป็นจริง ให้แก่กลุ่มทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งมีโอกาสกลับมาดำเนินธุรกิจ โดยใช้ทรัพย์สินหลักประกันเดิมได้ หลังโควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งให้สถาบันการเงินรับโอนทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันของผู้ประกอบธุรกิจหรือเจ้าของทรัพย์สินหลักประกันที่โอนทรัพย์สินหลักประกันเพื่อชำระหนี้ของผู้ประกอบธุรกิจที่มีเงินกู้ที่มีอยู่กับสถาบันการเงิน และมีข้อตกลงให้สิทธิซื้อทรัพย์สินหลักประกันนั้นกลับคืนในภายหลังตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ธปท. กำหนด ซึ่งรวมถึงราคาที่ผู้ประกอบธุรกิจหรือเจ้าของทรัพย์สินหลักประกันซื้อทรัพย์สินนั้นคืนจากสถาบันการเงิน  


ทั้งนี้ ธปท. จะสนับสนุนแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำให้สถาบันการเงิน เพื่อให้สถาบันการเงินสามารถขายทรัพย์สินคืนให้ผู้ประกอบธุรกิจหรือเจ้าของทรัพย์สินรายเดิมในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป รวมทั้งสถาบันการเงินสามารถให้ผู้ประกอบธุรกิจหรือเจ้าของทรัพย์สินเช่าทรัพย์สินนั้นเพื่อดำเนินธุรกิจต่อไปได้ในช่วงระยะเวลามาตรการได้อีกด้วย


โดยกระทรวงการคลังจะยกเว้นภาระภาษีอากรที่เกิดขึ้นจากการตีโอนทรัพย์ตามมาตรการพักทรัพย์ พักหนี้สำหรับสถาบันการเงินผู้ให้กู้ และผู้ประกอบธุรกิจผู้กู้หรือเจ้าของทรัพย์สินหลักประกัน นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยจะลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนจากผู้ประกอบธุรกิจหรือเจ้าของทรัพย์สินหลักประกันให้สถาบันการเงิน และจะลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนองให้ผู้ประกอบธุรกิจหรือเจ้าของทรัพย์สินหลักประกันในกรณีที่ซื้อทรัพย์สินนั้นคืนจากสถาบันการเงินเพื่อลดภาระให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ  


อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 มาตรการดังกล่าวจะมีระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี โดยคณะรัฐมนตรีสามารถขยายระยะเวลามาตรการออกไปได้อีก 1 ปี ในกรณีที่มีความจำเป็นและมีวงเงินเหลืออยู่ และคณะรัฐมนตรีสามารถอนุมัติให้เกลี่ยวงเงินระหว่างมาตรการได้


>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews