Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
GPSC โบรกฯ เชียร์ 'ซื้อ' อัพเป้าใหม่ 47 บ. -FPI อานิสงส์ Made in India Backlog แตะ 1 พันล้านบ.
MAI
HANN เปิดแผนครึ่งหลังปี 68 เดินหน้าขยายกิจการ
IPO
SKIN เคาะ IPO หุ้นละ 1.20 บ. จองซื้อ 15-17 ก.ย.นี้
บล./บลจ
GCAP GOLD ชี้ ปัจจัยสหรัฐฯ ตัวแปรราคาทองพุ่ง
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
คลังปลดล็อก บสย. ค้ำประกันสินเชื่อกลุ่มลีสซิ่ง-นาโนไฟแนนซ์
การค้า - พาณิชย์
SME D Bank ออกมาตรการด่วนลดภาระผู้ประกอบการ รับพิษ “คาจิกิ” - “หนองฟ้า”
พลังงาน - อุตสาหกรรม
ATLAS ผนึก PTG เปิดปั๊มแลนด์มาร์กใหม่ “PT Max Rest”
คมนาคม - โลจิสติกส์
ITEL เดินหน้าสู่ Green Data Center อย่างยั่งยืน ด้วยใบรับรอง I-REC จากอินโนพาวเวอร์
แบงก์ - นอนแบงก์
KBANK จับมือ Orbix ปูทางสู่อนาคต Agentic Economy
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
กรุงศรี ออโต้ ปักธง “GO Auto Station” หนุนสินเชื่อครึ่งปีหลังเร่งตัว
SMEs - Startup
KBTG จัดงาน “KBTG Techtopia ปี 3” เปิดประตูสู่อนาคตมนุษยชาติ
ประกันภัย - ประกันชีวิต
ไทยประกันชีวิต คว้า 3 รางวัลอันทรงเกียรติ จาก คปภ.
รถยนต์
PT Maxnitron Racing Series 2025 จบสนามที่ 3-5
ท่องเที่ยว
พรูเด็นเชียลฯ ร่วมสนับสนุน ซีนิคฮาล์ฟมาราธอนระยอง
อสังหาริมทรัพย์
อนันดาฯ โชว์ยอดจองหุ้นกู้ล้น 1.5 เท่า ปิดยอดจองซื้อ 1 พันล.
การตลาด
TCL เปิดตัว C7K Premium QD-Mini LED TV
CSR
KBTG จัดงาน “KBTG Techtopia ปี 3” เปิดประตูสู่อนาคตมนุษยชาติ
Information
Kumwell รับใบประกาศนียบัตรเครื่องหมายรับรองฉลากคาร์บอน (CE-CFP)
Gossip
CCET ฮอตไม่หยุด! ออเดอร์แน่น ลุ้นผลงานโตแรง
Entertainment
พรูเด็นเชียลฯ ร่วมสนับสนุน “ซีนิค ฮาล์ฟมาราธอน กระบี่ 2025”
สกุ๊ป พิเศษ
"รุ่ง-วิทัย" ใครจะเข้าวิน ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ
ttb analytics มองไทยเที่ยวไทยครึ่งปีหลังสดใส คาดทั้งปีโต 161.7%
2022-06-23 18:22:42
2436
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ - ttb analytics มองไทยเที่ยวไทยยอดพุ่งครึ่งปีหลัง คาดทั้งปีไทยเที่ยวไทยโต 161.7% สร้างรายได้ราว 7.2 แสนล้านบาท ห่วงเงินเฟ้อฉุดกำลังซื้อ แนะใช้เทรนด์ท่องเที่ยวแนวใหม่หนุนเศรษฐกิจภูมิภาค
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2565 ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics ประเมินว่า จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศในปี 65 จะอยู่ที่ 188.1 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวราว 7.2 แสนล้านบาท โดยตลาดนักท่องเที่ยวในประเทศยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในปีนี้ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวระยะใกล้หรือจังหวัดเมืองรองที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น ส่วนหนึ่งเพื่อหลีกเลี่ยงความแออัดของเมืองท่องเที่ยวหลักตามแนวทางการรักษาระยะห่างทางสังคม และมองหาประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของท้องถิ่น รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับเมืองหลักในภูมิภาคเดียวกัน
ทั้งนี้ จากการที่ภาครัฐประกาศให้พื้นที่ 77 จังหวัดเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องสามารถขยายเวลาเปิดปิดกิจการให้กลับสู่ภาวะปกติได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.65เป็นต้นไป รวมไปถึงการยกเลิกไทยแลนด์พาส ช่วยให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศไทยกลับมาคึกคักมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาวะวิกฤตน้ำมันแพงทั่วโลกอย่างรวดเร็ว อาจทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นได้น้อยกว่าคาด ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยเอง ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน แต่คาดว่าความต้องการท่องเที่ยวเพื่อชดเชยช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รุนแรงก่อนหน้า (Pent-Up Demand) ที่ยังมีสูง ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนรูปแบบและพฤติกรรมการท่องเที่ยวในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะการใช้มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเข้มข้นในช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยการเพิ่มและขยายสิทธิ์ในโครงการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ส่วนต่อขยาย” อีก 1.5 ล้านสิทธิ์ ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนตุลาคม และโครงการ “รัฐทัวร์ทั่วไทย” ที่เปิดโอกาสให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐท่องเที่ยวได้ในวันธรรมดา โดยไม่ถือเป็นวันลาได้ สูงสุด 2 วัน
โดย ttb analytics จึงประเมินว่า จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศจะสูงถึง 188.1 ล้านคน-ครั้ง หรือขยายตัว 161.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 64 และมีรายได้จากการท่องเที่ยวราว 7.2 แสนล้านบาท หรือ ขยายตัว 228% สะท้อนจากตัวเลขผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยช่วง 4 เดือนแรกของปี 65 ที่เพิ่มขึ้นถึง 87.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 64 สร้างรายได้ 2.2 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 82.9% สอดคล้องกับข้อมูลเทรนด์สืบค้นจุดหมายปลายทางในประเทศ (Google Destination Insights) ที่มีสัญญาณดีขึ้นตามลำดับนับตั้งแต่ต้นปี
อย่างไรก็ตาม แม้บรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศช่วง 4 เดือนแรกของปี 65 เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา แต่ระดับการฟื้นตัวยังค่อนข้างต่ำและไม่ทั่วถึงในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดที่พึ่งพิงรายได้จากต่างชาติสูง เช่น จังหวัดท่องเที่ยวในภาคใต้ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ช้าตามข้อจำกัดในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวกลุ่มหลัก (จีนและรัสเซีย) สอดคล้องกับจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศทั่วโลกโดยรวมที่ยังคงต่ำกว่าก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 ราว 10-20% ทำให้มีเพียง 12 จังหวัด หรือราว 15% ที่มีการฟื้นตัวอย่างชัดเจนทั้งในส่วนของจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับช่วงครึ่งหลังของปี 65 คาดว่า อัตราเงินเฟ้อที่เร่งขึ้นและยาวนานจะส่งผ่านต้นทุนการผลิตให้กระจายเป็นวงกว้าง จนทำให้ราคาสินค้าและบริการมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก และอาจบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งถือเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของคนไทย โดยเฉพาะราคาพลังงานที่ทะยานสูงสุดในรอบเกือบทศวรรษ ซึ่งส่งผลกระทบการท่องเที่ยวของคนไทยกว่า 70% นิยมเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10% ต่อคนต่อวัน
ขณะที่ผลกระทบที่รุนแรงและยืดเยื้อจากสถานการณ์โควิด-19 นอกจากจะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจในวงกว้างแล้ว ยังทำให้เกิดข้อจำกัดในการเดินทางข้ามพื้นที่ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้เทรนด์การท่องเที่ยวเปลี่ยนไปจากเดิม จากการเสาะหาจุดเช็คอินสถานที่เที่ยวยอดนิยม (Mass Travel) เป็น “การท่องเที่ยวระยะใกล้แต่ให้ประสบการณ์แปลกใหม่” (Niche Travel)
โดยเทรนด์การท่องเที่ยวรูปแบบนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น เห็นได้จากดัชนีการเคลื่อนที่ของผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก (Facebook Mobility Index) ที่ทยอยปรับตัวดีขึ้นในทุกภูมิภาคและกระจายไปยังเมืองรองมากขึ้น สอดคล้องกับจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยที่หันมาท่องเที่ยวเมืองรองในช่วง 4 เดือนแรกของปี 65 สูงถึง 23.3 ล้านคน-ครั้ง หรือประมาณ 30% ของผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยทั้งหมด ซึ่งจังหวัดเมืองรองที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย สมุทรสงคราม ลพบุรี และสุพรรณบุรี เหล่านี้สะท้อนการตอบโจทย์ทั้งเรื่องการหลีกเลี่ยงความแออัดของเมืองท่องเที่ยวหลัก การให้ประสบการณ์และเอกลักษณ์เฉพาะของท้องถิ่น และค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าราว 20-40% เมื่อเทียบกับเมืองหลักในภูมิภาคเดียวกัน
ทั้งนี้ เมื่อเทรนด์การท่องเที่ยวเปลี่ยนไป จะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาอยู่ในเมืองรองได้นานขึ้น จึงเป็นโจทย์ใหญ่ในการพัฒนาเมืองรองให้มีความน่าสนใจและดึงดูดมากขึ้น เนื่องจากการท่องเที่ยวเมืองรองส่วนใหญ่จะเป็นแบบเช้าไปเย็นกลับ (One-Day Trip) หรือเป็นเพียงเส้นทางผ่านไปยังเมืองหลักเท่านั้น ดังเช่นตัวเลขรายได้จากการท่องเที่ยวของคนไทยในปี 62 ที่เกือบ 80% หรือราว 8.5 แสนล้านบาท กระจุกอยู่ที่เมืองหลัก และที่เหลือกระจายไปยัง 55 จังหวัดเมืองรอง
ดังนั้น นโยบายการส่งเสริม “ท่องเที่ยวเมืองรอง” ของภาครัฐจึงควรเน้นทั้งด้านอุปสงค์ของการท่องเที่ยว เช่น การนำค่าใช้จ่ายเที่ยวเมืองรองมาลดหย่อนภาษี โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ควบคู่กับการพัฒนาด้านอุปทานอย่างยั่งยืน ทั้งการปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวให้สะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่นให้มีความหลากหลายและน่าดึงดูด ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนทำการตลาดผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวเมืองรอง 3 วัน 2 คืน แพ็คเกจเที่ยวเมืองหลัก พักเมืองรอง ฯลฯ เพื่อให้สถานที่ท่องเที่ยวเมืองรองเป็นที่รู้จักในฐานะ “Local Destination” จนเกิดการกระจายการท่องเที่ยวในมิติพื้นที่และรายได้สู่ชุมชนต่อไป
ในช่วงที่หลายประเทศจำเป็นต้องล็อกดาวน์เป็นเวลายาวนานจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้นายจ้างทั่วโลกต้องปรับตัวและนำเทคโนโลยีติดต่อสื่อสารและรูปแบบการทำงานผ่านระบบออนไลน์มาใช้อย่างแพร่หลาย จนเกิดเทรนด์การทำงานจากที่ไหนก็ได้ในยุคดิจิทัล (Digital Nomad) เช่น งานฟรีแลนซ์ เจ้าของธุรกิจออนไลน์ และงานที่ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ (Remote Working)) ซึ่งได้กลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ และได้รับการยอมรับในวงกว้าง เห็นได้จากปัจจุบันมีการออกวีซ่าประเภท “Digital Nomad” ต้อนรับนักเดินทางกลุ่มนี้แล้วมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก
ขณะที่ ttb analytics มองว่า กลุ่ม Digital Nomad มีจุดเด่นในเรื่องของระยะเวลาพำนักที่ยาวนานกว่ากลุ่มอื่น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยทำงานยุค Millennial (อายุระหว่าง 24-37 ปี) ที่มีกำลังซื้อสูง หัวใจสำคัญของตลาดกลุ่มนี้คือ “การสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อน” เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศทำงานในช่วงสั้น ๆ และถือโอกาสท่องเที่ยวไปยังสถานที่แปลกใหม่ จึงทำให้โรงแรมที่พักขนาดกลางและขนาดเล็กในพื้นที่รอบนอกหรือเมืองรอง ซึ่งมีข้อได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งที่เป็นส่วนตัว สงบเงียบ ไม่วุ่นวาย และมีค่าใช้จ่ายต่ำเหมาะแก่การพักผ่อนระยะยาว ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงควรปรับปรุงที่พักให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอในราคาที่จับต้องได้ การนำแพลตฟอร์มออนไลน์มาใช้เพื่อสร้างความยืดหยุ่นในการให้บริการ การสร้างความพร้อมด้านเทคโนโลยีและบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง รวมถึงการสร้างบรรยากาศทำงานที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น Coworking space หรือ Social space ซึ่งจะช่วยดึงดูดตลาด Digital Nomad ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด
GPSC โบรกฯ เชียร์ 'ซื้อ' อัพเป้าใหม่ 47 บ. -FPI อานิสงส์ Made in India Backlog แตะ 1 พันล้านบ.
ACE ลุย COD โซลาร์ฟาร์มเพิ่ม - HFT จัดทัพรับออเดอร์เข้า รุกเจาะลูกค้าออนไลน์
HFT เปิดกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง รุกเจาะกลุ่มลูกค้าออนไลน์
KBANK ผนึก ศุภาลัย ชู D.E.A.L. แพลตฟอร์มสินเชื่อดิจิทัล - TPCH เดินหน้า COD ปีนี้ โซลาร์ฟาร์ม สปป.ลาว
TEGH ดันยอดขาย 2.2 หมื่นลบ. - NER ติดอันดับ "ESG100" 7 ปีต่อเนื่อง
NER ติดอันดับ “ESG100” 7 ปีต่อเนื่อง