Phones





NER โบรกฯ ส่อง "แกร่งกว่ากลุ่ม" เคาะเป้า 6.95 บาท

2024-05-08 15:07:44 121



นิวส์ คอนเน็คท์ - โบรกฯ ส่องแนวโน้ม NER ชี้ ยังแข็งแกร่งเกินกว่าหุ้นในกลุ่ม คาดยอดขาย Q1/67 ทำได้ 1.2 แสนตัน รายได้ราว 6.3 พันล้านบาท แต่อัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้นเป็น 12.3% พร้อมทั้งคาดกำไรปกติ Q2/67 จะทำจุดสูงสุดใหม่ คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 6.95 บาท คาดปันผลทั้งปี 0.45 บาทต่อหุ้น

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เผยแพร่บทวิเคราะห์แนวโน้มผลดำเนินงานของ บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER โดยมองว่ายังคงแข็งแกร่งกว่ากลุ่ม คาดกำไรปกติ Q1/67 ยังสวย แต่ยังไม่เต็มที่ คาดปริมาณขาย Q1/67 ที่ 1.2 แสนตัน (-5.9% QoQ , -5.9% YoY) ปริมาณขายที่ลดลงส่วนหนึ่งเป็นผลของราคาขายที่ปรับตัวขึ้น และลุกค้าชะลอดูสถานการณ์ในช่วงต้นไตรมาส แต่กลับมาเร่งซื้อมากขึ้นในช่วงปลายไตรมาส เมื่อราคายางพาราตลาดโลกยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ราคาขายเฉลี่ยที่ 53.25 บาท/ก.ก. (+2.9% QoQ, +8.6% YoY) 

คาดรายได้ที่ 6,390 ล้านบาท (-3.3% QoQ, +2.2% YoY) แต่คาด GPM เพิ่มขึ้นเป็น 12.3% จาก 11.3% ใน Q4/66 และ 9.7% ใน Q1/66 จากราคาขายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนขายเพิ่มขึ้นช้ากว่า เนื่องจากยังมีสต๊อกบางส่วนที่มีต้นทุนต่ำ ทำให้ต้นทุนเฉลี่ยยังไม่สูงมากนัก คาด SG&A/Sales ที่ 3.4% เพิ่มขึ้นจาก 2.8% ใน Q4/66 และ 2.9% ใน Q1/66 จากการลงทุนระบบจัดการภายในเพิ่มเติมในไตรมาสนี้ ทำให้ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น คาดกำไรปกติที่ 438 ล้านบาท (+1.9% QoQ, +44.2% YoY) และคาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ต่ำที่สุดของปี

คาดกำไร Q2/67 มีโอกาสทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากราคาขายที่ดีที่สุดของปี และคาดปริมาณขายเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 1.2 แสนตัน ส่วนราคายาง STR20 ตลาด SICOM ที่ลดลงราว 8.4% ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา แต่หากพิจารณา YTD ราคายังเพิ่มขึ้น 2.8% โดยราคา ณ วันที่ 24 เม.ย. อยู่ที่ 159.2 USCent/Kg เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลเปิดกรีดยาง ตลาดคาดว่าปริมาณยางจะออกสู่ตลาดมากขึ้น และอุปสงค์จากจีนอาจชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ปริมาณความต้องการในจีนยังคงมีต่อเนื่อง เศรษฐกิจจีนผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว รวมถึงการแข่งขันรถราคาของรถยนต์ EV ในจีน จะช่วยเพิ่มอุปสงค์ยางล้อด้วยเช่นกัน

ยังคงคาดว่าปริมาณน้ำยางจะยังน้อยกว่าปกติ เพราะสภาวะอากาศไม่เอื้ออำนวย และที่ราคายาง SICOM ปัจจุบันเฉลี่ย 2QTD ซึ่งจะใช้เป็นราคาขายใน Q3/67อยู่ที่ราว 160 USCent/Kg. ยังสูงกว่าราคาเฉลี่ยใน Q4/66 ที่ใช้เป็นราคาขายใน Q1/67 ทำให้เราคาดว่ากำไรใน Q3/67จะยังดีกว่า Q1/67 ส่วนเทียบกับ Q2/67 ขึ้นอยู่กับปริมาณขายว่าเพิ่มขึ้นมากกว่า Q2/67 หรือไม่ แต่คาดว่าจะยังเติบโต YoY ได้ 

ทั้งนี้ ปรับราคาเป้าหมาย รับผลจาก Warrant 100% ยังมี Upside สูง คงคำแนะนำ "ซื้อ" เพื่อความ Conservative ได้ปรับจานวนหุ้นขึ้นตามสมมติฐานปริมาณการใช้สิทธิ์ใน Warrant ชุดใหม่แบบ 100% แต่ยังไม่รวมผลของเงินสดที่ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินลดลงจากการนำไปชำระหนี้ หรือ Refinance ได้ต้นทุนที่ต่ำลง เพราะฐานทุนมากขึ้น DE ลดลง ได้จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น 16.7% เป็น 2,156 ล้านหุ้น ได้ EPS ปี 67 ที่ 0.95บาท อิง PER ที่ 7.28 เท่า เช่นเดิม จะได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 67 รวมผล Dilution ทั้งหมดจาก Warrant แล้ว จะอยู่ที่ 6.95บาท ซึ่งยังคงมี Upside gain สูงถึง 33.7% และราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER67ต่ำเพียง 5.5 เท่า จึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" 

ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงจากการขึ้น XR, XW เป็นโอกาสซื้อ เพราะกำไรดีกว่ากลุ่มฯ โดยคาดกำไรปกติเติบโต QoQ และ YoY ได้ตั้งแต่ Q1/67คาดเงินปันผลทั้งปี 67 ที่ 0.45 บาท/หุ้น ให้ผลตอบแทนราว 8.6%