Phones





WEH ครึ่งหลังปี 67 เข้าไฮซีซั่น อัพรายได้ทะลุ 1 หมื่นล.

2024-06-26 16:17:01 119




นิวส์ คอนเน็คท์ - WEH พร้อมเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นในการผลิตไฟฟ้า ในครึ่งหลังปี 67 เชื่อปิดเป้ารายได้สิ้นปีทะลุ 1 หมื่นล้านบาท เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน พร้อมเปิดแผนปั้นโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนอีกกว่า 10 โครงการใหม่ ทั้งในและต่างประเทศเข้าพอร์ต ตามแผนยกระดับรายได้แตะระดับ 15,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี โดยมี 2 โครงการใหม่ โรงไฟฟ้าพลังงานลม 89.7 เมกะวัตต์ และ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 20 เมกะวัตต์ ที่เตรียมลงนามในสัญญา PPA กับ กฟผ. อยู่ในมือแล้ว

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 นายณัฐพศิน เชฎฐ์อุดมลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม อันดับ 1 ของไทย เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 มีแนวโน้มรายได้ดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก เพราะจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ที่มีปริมาณกระแสลมดีที่สุดในไตรมาสที่ 4 ประกอบกับบริษัทได้เตรียมความพร้อมตัวกังหันลมให้มีความพร้อมสูงสุด เพื่อรองรับการผลิต ในขณะที่ 6 จาก 8 โครงการโรงไฟฟ้าพลังลมของบริษัท ยังคงได้รับเงินส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) จำนวน 3.5 บาทต่อกิโลวัตต์ จนถึงปี 2570-2572 ทั้งหมดนี้เชื่อว่าจะทำให้ปี 2567 จะมีรายได้ตามเป้ากว่า 10,000 ล้านบาท ตามที่วางไว้ ซึ่งจะทำให้เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ที่บริษัทรับรู้รายได้มากกว่า 10,000 ล้านบาท

ปัจจุบัน WEH อยู่ระหว่างเดินหน้าตามแผนงานขยายรายได้ไปสู่ระดับ 15,000 ล้านบาท ภายใต้กำลังการผลิตไฟฟ้ากว่า 1,000 เมกะวัตต์ โดยได้พัฒนาโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติมเข้ามาในพอร์ตของบริษัท ล่าสุด มี 2 โครงการที่เตรียมลงนามในสัญญา PPA กับ กฟผ. คือ โรงไฟฟ้าพลังงานลมกำลังการผลิต 89.7 เมกะวัตต์ โดยบริษัท ด่านขุนทด วินด์ วัน จำกัด และ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงานกำลังการผลิตตามสัญญา 30 เมกะวัตต์ โดยบริษัท ดับบลิวอีเอซ โซล่าร์ ทู จำกัด และยังมีโครงการใหม่ที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จำนวน 2 โครงการ

นอกจากนี้ WEH ยังอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 10 โครงการ ทั้งในและต่างประเทศ ถือว่าเรามีความพร้อมในระดับสูงสำหรับการแข่งขัน เพื่อให้ได้รับการคัดเลือก ทั้งหมดนี้รองรับโอกาสดีที่ WEH อยู่ในอุตสาหกรรมที่เป็นขาขึ้น เพราะปัจจุบันความต้องการใช้พลังงานทดแทนมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก เชื่อว่าจะเป็นโอกาสในการขยายศักยภาพของบริษัท ประกอบกับความพร้อมทั้งด้านเงินทุนและฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ทำให้บริษัทความมั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน

“ปัจจุบันเรามีโรงไฟฟ้าพลังงานลม รวม 8 แห่ง ที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ระยะยาวรวม 690 เมกะวัตต์กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งทั้งหมดผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว โดยช่วงปี 2564-2566 มีรายได้มากกว่า 10,000 ล้านบาททุกปี และมีอัตรากำไรระดับสูงที่ 40-50% ทุกปีเช่นกัน” นายณัฐพศิน กล่าว