Phones





SEAFCO รถไฟฟ้าสีส้มหนุนกำไรปี 68 พุ่งแรง โบรกชี้เป้า 3 บาท

2024-09-18 21:17:15 240



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - SEAFCO รอรับงานรถไฟฟ้าสายสีส้มเข้าพอร์ต โบรกมองเป็นปัจจัยสำคัญหนุนผลงานปี 68 ฟื้นตัว โดยบล.ฟินันเซีย ประเมินกำไรปี 67 หดตัวเหลือ 44 ล้านบาท เนื่องจาก Backlog ที่มีเพียง 936 ล้านบาท แต่คาดกำไรปี 68 จะกลับมาเติบโต 250% สู่ระดับ 150 ล้านบาท แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 3.00 บาท
 
เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 ดร.ณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2567 บริษัทจะทยอยส่งมอบงานในมือ (Backlog) ที่เหลืออยู่เกือบ 1 พันล้านบาท ขณะที่บริษัทยังอยู่ระหว่างรอรับงานฐานรากของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งได้มีการเสนอราคาไปให้ผู้รับเหมาที่ชนะประมูลโครงการเรียบร้อยแล้ว
 
ในส่วนของโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน ปัจจุบันก็ยังคงเดินหน้าการซื้อหุ้นคืนตามงบที่ตั้งไว้ แต่คงไม่ได้เร่งรีบซื้อหุ้นเข้ามา แต่คงต้องรอจังหวะที่ราคาหุ้นถูก ซึ่งบริษัทมีกระแสเงินสดที่จะเข้าไปดำเนินโครงการ และถือว่าเป็นการลงทุนด้วย และผู้ถือหุ้น SEAFCO จะได้ประโยชน์ด้วย
 
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ฝ่ายวิจัยปรับประมาณการกําไรสุทธิของ SEAFCO ในปี 2567 ลงจากเดิม 39% เป็น 44 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 74% เนื่องจากปรับลดรายได้สะท้อนปริมาณงานใหม่ที่น้อยกว่าคาด รวมทั้งแนวโน้มกําไรครึ่งปีหลังของปี 2567 อ่อนแอ จากการรับรู้งานเอกชนขนาดกลาง Shark Fin Pathum Wan Intersection เริ่มไตรมาส 3/2567, The Platinum Square เริ่มไตรมาส 4/2567 อย่างไรก็ตาม หากได้รับงานรถไฟฟ้าสีส้มจะผลักดันให้กําไรทยอยฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 1/2568 และโดดเด่นในไตรมาส 2 และ 3 ของปี 2568 โดยฝ่ายวิจัยคาดกำไรปี 2568 กลับมาเติบโต 250% สู่ระดับ 152 ล้านบาท
 
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2567 ถึงปัจจุบัน SEAFCO ได้รับงานใหม่มูลค่ารวม 1 พันล้านบาท และมี Backlog ปัจจุบันอยู่ที่ 936 ล้านบาท ขณะที่มีงานที่อยู่ระหว่างประมูลรวม1.07หมื่นล้านบาท โดยมีโครงการที่มีโอกาสร่วมรับงานฐานรากคือ 1. รถไฟฟ้าสีส้ม จาก CKที่เป็นพันธมิตรธุรกิจ โดยโครงการเป็นสถานีใต้ดินทั้งหมด 11 สถานี สมมติ Success rate 50% หรือ 5 สถานี อิงฐานรากใกล้เคียงกับรถไฟฟ้าม่วงใต้และสีส้มตะวันออกราว 300 ล้านบาทต่อสถานี จะทำให้ SEAFCO รับงานมูลค่า 1.5 พันล้านบาท และรับเฉพาะค่าแรงซึ่งมาร์จิ้นดี ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ รายได้ในไตรมาส 1/2568 – ไตรมาส 1/2569
 
นอกจากนี้ ยังมีงานทางด่วน Double Deck ซึ่ง BEM อยู่ระหว่างเจรจากับกทพ. คาดได้ข้อสรุปภายในครึ่งปีหลังของปี 2567 หรือครึ่งปีแรกของปี 2568 และยังมีงานรถไฟฟ้าใต้ดินในบังกลาเทศ ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับหนึ่งในผู้ชนะประมูล คาดมีความชัดเจนปี 2568 โดยฝ่ายวิจัยได้ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 2568 ที่ 3.00 บาท อิง TargetPBV1.4 เท่า ซึ่งหุ้นมีอัพไซด์กว้างขึ้นและมองข้ามไปปี 2568 ที่กำไรฟื้นตัว
 
ขณะที่บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ กสิกรไทย ระบุว่า ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองเป็นบวกต่อ SEAFCO จากโอกาสที่จะได้รับงานเสาเข็มของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม รวมถึงการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 และปัจจัยบวกจากการการพัฒนา Entertainment Complex ซึ่งคาดว่าจะใช้งบลงทุนก่อสร้างเป็นจำนวนมากตามที่ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ระบุไว้ก่อนหน้านี้ โดยฝ่ายวิจัยยังคงแนะนำ “ซื้อ” SEAFCO และประเมินราคาเป้าหมายที่ 3.24 บาท