Phones





MMM เคาะราคา 5.5 บาท/หุ้น เปิดจอง 28-30 ต.ค.นี้

2025-10-27 16:15:41 40



นิวส์ คอนเน็คท์ - MMM เสนอขาย PO จำนวนไม่เกิน 64.2 ล้านหุ้น เคาะราคาที่ 5.5 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อวันที่ 28-30 ต.ค.นี้ จ่อเข้าเทรด mai ภายในเดือน พ.ย. 68 ระบุราคา PO เหมาะสม ดึงความน่าลงทุน ตอกย้ำ Business Model โดดเด่น ชูความเป็น “มินิมาร์ทอสังหาฯ” ขณะที่ CEO “ณิชา โรจน์วัฒนา” ประกาศสร้างความเชื่อมั่น กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่พร้อมใจ “Lock Up” หุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมด 100%

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2568 บริษัท เอ็มเอ็มเอ็ม แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MMM หนึ่งในผู้นำด้านตัวแทนการขายอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้การให้บริการที่ปรึกษาด้านการขายและการตลาดแก่ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาฯ และซื้อขายอสังหาฯ แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (PO) พร้อมทั้งแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย อีก 2 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), และบริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน

ได้เสนอขายหุ้น PO จำนวนไม่เกิน 64,200,000 หุ้น หรือคิดเป็น 21.40% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท 

นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 1 บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า บริษัทเสนอขายหุ้น PO จำนวนไม่เกิน 64,200,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 5.5 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price To Earnings Ratio: P/E) ที่ 13.41 เท่า สอดคล้องกับสภาวะของตลาดหุ้นในปัจจุบัน และปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ที่มีความแข็งแกร่ง และผลการดำเนินงานในปี 2568 โดยจะเปิดให้จองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 28-30 ตุลาคม 2568 และเตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ 

นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ด้วยศักยภาพการเป็นผู้ให้บริการด้านตัวแทนการขายอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจร รวมถึงโมเดลธุรกิจ การเป็นตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยทุกประเภท เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม โดยเน้นพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และยังมีการใช้กลยุทธ์การขายผ่านเครือข่ายนายหน้าอิสระ เป็นจุดแข็ง ที่ช่วยขยายการเข้าถึงลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ดังนั้นเชื่อว่า MMM จะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่มีศักยภาพเติบโตสูง โดยเฉพาะในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการผู้ช่วยด้านการขายและการตลาดอย่างมืออาชีพ

“หุ้น MMM จะเป็นอีกหนึ่งหุ้นน้องใหม่ ที่จะได้การตอบรับที่ดีจากนักลงทุน และด้วยภายใต้ โมเดลธุรกิจที่โดดเด่น ด้วยการวางตำแหน่งเป็น “มินิมาร์ทอสังหาฯ” โดยมุ่งเน้นการกระจายความเสี่ยง ผ่านการบริหารโครงการที่หลากหลายทั้งในด้านประเภทและทำเลที่ตั้ง ส่งผลให้ MMM มีความสัมพันธ์อันดี กับเครือข่ายเอเจนต์อิสระ สามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลเชิงบวกต่อการสร้างโอกาสการเติบโตของธุรกิจได้ในอนาคต”

ขณะที่ นางสาวณิชา โรจน์วัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MMM กล่าวว่า บริษัทฯ มีแผนในการนำเม็ดเงินที่ได้ภายหลังจากการระดมทุนครั้งนี้ จำนวน 287.10 ล้านบาท เพิ่มศักยภาพการเติบโตธุรกิจ เพื่อขยายขีดความสามารถการแข่งขันให้กับบริษัทฯ โดยจะนำไปขยายในการวางเป็นเงินประกันสัญญาในธุรกิจการให้บริการที่ปรึกษางานขายโครงการ (Bu1) และสัญญาการให้บริการบริหารงานขายโครงการ (Bu2) รวมทั้งสัญญาการให้บริการบริหารงานขายแบบวางหลักประกันการซื้อ (Hybrid) อีกทั้งยังใช้เพื่อการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในธุรกิจการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ (Bu3) และส่วนที่เหลือเพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน สำหรับรองรับแผนการขยายธุรกิจและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในการบริหารการขายในอนาคต
 
และเพื่อแสดงออกถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจของผู้ถือหุ้นใหญ่ กลุ่มนางสาวณิชา และนายสุริยา ที่ถือหุ้นรวมกัน จำนวนหุ้น 219,997,900 หุ้น หรือคิดเป็น 73.33% ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน นอกจากติด Silent Period ตามหลักเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนดห้ามขายหุ้นแล้ว สำหรับหุ้นส่วนที่เหลือทางกลุ่มก็จะไม่ขายหุ้นโดยสมัครใจ (Voluntary IPO Lock Up) ทั้งหมด 100% เป็นระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่เริ่มทำการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ด้วยเช่นเดียวกัน 

นายกวิน อนันต์พัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน “MMM” กล่าวเสริมว่า ผลดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 339.41 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 63.30 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 18.58% ซึ่งเป็นการทำกำไรสุทธิได้เติบโตต่อเนื่องจากปี 2565-2567 ที่บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการเท่ากับ 168.08 ล้านบาท 255.66 ล้านบาท และ 357.88 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิ และอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 35.09 ล้านบาท 47.74 ล้านบาท และ 80.76 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 20.62%, 18.49% และ 22.39% ส่งผลให้ MMM สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นกลุ่ม LiVEx ได้ถึง 6 ไตรมาสติดต่อกันนับตั้งเแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ LiVEx เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2566 จนถึงงวดปัจจุบัน ภายใต้นโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ