Phones





PRM กวาดกำไร Q3 กว่า 595 ลบ. ธุรกิจ “FSU-OSV” โดดเด่น

2025-11-19 17:23:24 90



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - PRM ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/68 มีรายได้ 2,322.8 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 595.5 ล้านบาท รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของธุรกิจ FSU และการลงทุนขยายกองเรือในธุรกิจ OSV
 
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2568 บริษัทมีรายได้ 2,322.8 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 595.5 ล้านบาท โดยปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญมาจากการฟื้นตัวของธุรกิจ FSU และการลงทุนขยายกองเรือในธุรกิจ OSV อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ปลายปี 2567 เพื่อรองรับความต้องการจากอุตสาหกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเลที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคตะวันออกกลาง ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2568 เติบโตขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2568 และไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า
 
อย่างไรก็ตาม แม้ในระหว่างไตรมาสจะมีผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา แต่บริษัทได้มีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว โดยได้ปรับแผนการขนส่ง และทำการตลาดเชิงรุกขยายการให้บริการขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปและปิโตรเคมีเหลวในต่างประเทศมากขึ้น เพื่อทดแทนปริมาณการขนส่งไปยังประเทศกัมพูชาที่ลดลง
 
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 แม้รายได้รวมจะปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า แต่บริษัทยังคงสร้างผลกำไรสุทธิถึง 1,847.6 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญจากการฟื้นตัวของกลุ่มธุรกิจ FSU ที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 3/2568 พร้อมกับอัตราค่าบริการที่ปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการของตลาดที่สูงขึ้นมากกว่าจำนวนเรือ FSU ที่มีให้บริการในท้องตลาดในปัจจุบัน ส่งผลให้ธุรกิจ FSU ของบริษัทมีกำไรขั้นต้น 445.2 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาส 3/2567 ถึง 12.4% ประกอบกับกลุ่มธุรกิจ OSV ที่รายได้ 9 เดือน เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 42.3% ซึ่งเป็นผลสำเร็จจากการขยายการให้บริการเรือ FSO ในอ่าวไทยและกองเรือ Crew Boat ทั้งในประเทศและตะวันออกกลางอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรองรับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น และมั่นใจว่าธุรกิจ OSV จะสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงและต่อเนื่องภายใต้อายุสัญญาระยะยาว
 
“จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและแนวโน้มที่เป็นบวกชัดเจนในไตรมาส 3 นี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นและให้คำมั่นสัญญาว่าจะเดินหน้าหาโอกาสในการเติบโตและรักษาการบริหารจัดการกองเรืออย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจและตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม พร้อมสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนเพื่อผลตอบแทนที่ดีที่สุดแก่ผู้มีส่วนได้เสียต่อไป” นายวิริทธิ์พล กล่าว