Phones





PHOL ลุยขยายฐานลูกค้าอุตสาหกรรม - คอนซูมเมอร์

2025-11-19 18:07:28 73



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - PHOL ประกาศงบไตรมาส 3/68 กวาดรายได้ 261.44 ล้านบาท กำไรแตะ 19.44 ล้านบาท โดยอัตรากำไรขั้นต้นพุ่งถึง 29.97% เตรียมเดินหน้าต่อยอดขยายพอร์ตสินค้าเพิ่มฐานลูกค้าอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพเติบโตและยกระดับช่องทางจำหน่ายขยายตลาดคอนซูมเมอร์
 
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 นายธันยา หวังธำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/2568 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการรวม 261.44 ล้านบาท แม้ลดลงเล็กน้อย 1.53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่บริษัทสามารถเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 29.97% จาก 23.70% หรือเพิ่มขึ้นกว่า 24.55% รับแรงหนุนจากการขายสินค้าใหม่และสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง อีกทั้งได้รับอานิสงส์เงินบาทแข็งค่าช่วยลดต้นทุนสินค้า ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 17.71% อยู่ที่ 23.93 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 19.44 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 7.41% ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน เนื่องจากในปีก่อนมีเรื่องการรับรู้ผลขาดทุนในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย จึงมีค่าใช้จ่ายภาษีที่ต่ำกว่าอัตราปกติ
 
ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าและบริการด้านความปลอดภัย อาชีวอามัย และสภาพแวดล้อม (SAFETY) ยังคงเป็นรายได้หลักกว่า 75% ของพอร์ต เติบโตต่อเนื่องจากยอดขายอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (PPE) โดยเฉพาะกลุ่มรองเท้าเซฟตี้ ที่มีการออกสินค้ารุ่นใหม่ทั้งที่แบรนด์บริษัท “ROCC” และกลุ่ม Premium Brands เช่น Skechers Work และ Puma Safety เป็นต้น ซึ่งได้รับการตอบรับดีจากทั้งภาคอุตสาหกรรมและผู้บริโภคทั่วไป
 
ขณะที่กลุ่มสินค้า Medical & Healthcare หรือ สินค้าทางการแพทย์และสุขภาพ แม้ยอดขายภาครัฐชะลอตัว แต่ยอดขายออนไลน์ยังขยายตัวโดดเด่น ซึ่งบริษัทได้มีการพัฒนาช่องทางการขายออนไลน์ต่อเนื่องทั้งที่เป็นเว็บไซต์ขายสินค้าของบริษัทเองรวมถึงช่องทางมาร์เก็ตเพลส ต่างๆ ทั้งนี้ PHOL เดินหน้าต่อยอดกลยุทธ์การพัฒนาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง การเพิ่มสินค้าใหม่ครอบคลุมสินค้าเพื่อความปลอดภัยและสุขภาพ รวมถึงการพัฒนาช่องทางขาย ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าทั้งในภาคอุตสาหกรรมและตลาดคอนซูมเมอร์
 
สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 755.40 ล้านบาท ใกล้เคียงปีก่อน แต่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 27.93% จาก 25.36% ในปีก่อน และมีกำไรจากการดำเนินงาน 65.57 ล้านบาท สะท้อนถึงการปรับพอร์ตสินค้าและบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ แม้เผชิญภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย โดยการเติบโตสำคัญมาจากสินค้าหลักในกลุ่มสินค้าและบริการด้าน SAFETY มีสัดส่วน 75.33% เติบโตจากปีก่อน 2.24% ตามด้วย สินค้าทางการแพทย์และสุขภาพ 4.90% เติบโตจากปีก่อนราว 32.24% อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มสินค้าด้านการควบคุมสภาพแวดล้อม (CE) มีสัดส่วน 16.37% ปรับตัวลดลงตามลูกค้าหลักในอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิกส์ที่ยังชะลอตัว ด้านกลุ่มสินค้าและบริการด้านระบบบำบัดน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค (WATER) มีสัดส่วน 3.87% รายได้ปรับตัวลดลงตามภาวะเศรษฐกิจและการชะลอโครงการลงทุนของลูกค้าบางส่วน