Phones





BBL กำไรโค้งแรกโต 20% รายได้ดอกเบี้ย-ค่าฟีพุ่ง

2025-04-17 19:52:12 94



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - BBL แจ้งงบการเงินไตรมาส 1/68 กำไรพุ่ง 20% สู่ระดับ 12,618 ล้านบาท รับแรงหนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 31,909 ล้านบาท และ NIM อยู่ที่ระดับ 2.89% รวมไปถึงการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียม ขณะที่เงินให้สินเชื่อในไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 2,720,983 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากสิ้นปีก่อน ในส่วนของ NPL อยู่ที่ระดับ 3%
 
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 โดยมีกำไรสุทธิ 12,618 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.9% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่จากรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 31,909 ล้านบาท และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ(NIM) อยู่ที่ 2.89% ซึ่งเป็นไปตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาด สำหรับรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้นจากการอำนวยสินเชื่อและบริการประกันผ่านธนาคารและบริการกองทุนรวมที่ยังคงเติบโตดี ประกอบกับกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุนและกำไรจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้นตามสภาวะตลาด สำหรับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น
 
ทั้งนี้ ธนาคารยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการให้ความสำคัญในการบริหารค่าใช้จ่าย ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 45.5% ขณะที่ธนาคารตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาส 1/2568 จำนวน 9,067 ล้านบาท อยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน
 
อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงแนวทางการดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ พร้อมทั้งรักษาเสถียรภาพ
ฐานะการเงิน สภาพคล่อง และเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดย ณ สิ้นเดือนมี.ค. 2568 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2,720,983 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากสิ้นปีก่อน ซึ่งมาจากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ขณะที่อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อรวม(NPL) อยู่ที่ 3% ซึ่งอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ โดยมีอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 300.3% เป็นผลจากการที่ธนาคารยึดหลักการตั้งสำรองด้วยความระมัดระวังและรอบคอบอย่างต่อเนื่อง
 
ในส่วนของเงินรับฝาก ณ สิ้นเดือนมี.ค. 2568 มีจำนวน 3,225,131 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8% จากสิ้นปีก่อน และมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากอยู่ที่ 84.4% ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่ 21.0%, 16.5% และ 15.8% ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)กำหนด