Phones





ตลท.แลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึก การลงทุน-เศรษฐกิจไทย

2024-08-28 15:30:30 95



นิวส์ คอนเน็คท์ - ตลท.แลกเปลี่ยนมุมมอง ทิศทางเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศไทย โดยเน้นที่ธุรกิจและการลงทุนที่สำคัญ เจาะข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภูมิทัศน์การลงทุนเศรษฐกิจของประเทศไทย ภายในงาน Thailand Focus 2024 ในหัวข้อ Adapting to a Changing World 

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2567 ศาสตราจารย์พิเศษกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวในงาน Thailand Focus 2024 : Adapting to a Changing World ว่า โลกปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความท้าทายรอบด้าน ขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ภูมิรัฐศาสตร์ และความต้องการของผู้ลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไป ความสามารถในการการปรับตัวจึงไม่ใช่เพียงความได้เปรียบแต่เป็นความจำเป็น ทั้งนี้ตลาดทุนไทยได้พิสูจน์ความสามารถในการยืดหยุ่นท่ามกลางพายุระบบการเงินโลก ความไม่แน่นอนทางการเมือง และภาวะโรคระบาด 

โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้วางบทบาทของตลาดทุนไทยในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม และการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยยุทธศาสตร์ 3 เสาหลัก ได้แก่ 1. ความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่น 2. การเพิ่มขีดความสามารถของตลาดทุนไทย และ 3. การส่งเสริมความยั่งยืน เพื่อมุ่งหน้าสู่การเป็นตลาดทุนสำหรับทุกคนเพื่อมุ่งสู่อนาคต

โดยเสาหลักที่ 1 ความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่น ในฐานะที่มีประสบการณ์ในแวดวงกฎหมาย เป็นทนายมากว่า 43 ปี และเป็นกรรมการด้านกฎหมายในบริษัทจดทะเบียน พบว่าการกำกับดูแลและธรรมาภิบาลเป็นหัวใจสำคัญสำหรับความไว้วางใจและความเชื่อมั่น เวลาและประสิทธิภาพเป็นกุญแจสำหรับความไว้วางใจ การเดินหน้าส่งเสริมความเชื่อมั่นและไว้วางใจผ่านการกระชับความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อทำให้เกิดการบังคับใช้อย่างทันเวลา เสริมสร้างกรอบกฎหมาย การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี และ AI เช่น การใช้ AI ในการตรวจสอบความผิดปกติของคำสั่งซื้อขายหรือกิจกรรมที่ไม่ปกติ การเพิ่มความโปร่งใสของข้อมูล โดยล่าสุดตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เปิดเผยข้อมูลโปรแกรมเทรดดิ้ง และข้อมูล Short Selling รวมทั้งส่งเสริมระบบนิเวศตลาดทุนให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ทั้งผู้ลงทุนรายย่อย และผู้ลงทุนสถาบันจากทั้งในและต่างประเทศ 

เสาหลักที่ 2 การเพิ่มขีดความสามารถของตลาดทุนไทย ตลาดทุนโลกที่มีความเชื่อมต่อกันไร้ขอบเขต การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทยให้เป็นที่สนใจสำหรับผู้ลงทุนในและต่างประเทศ การส่งเสริมการใช้ตลาดทุนในภาคที่มีการเติบโตสูง โดยสนับสนุนอุตสาหกรรมอนาคตให้เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ขณะที่มีบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในธุรกิจดิจิทัล คอมเมิร์ซ การแพทย์สมัยใหม่ การเกษตร และเทคโนโลยีอาหาร เป็นต้น การส่งเสริมพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมและความร่วมมือระดับโลก โดยสนับสนุนให้บริษัทขนาดใหญ่เข้าลงทุนและในธุรกิจสตาร์ทอัพให้เติบโตเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ mai และ SET รวมถึงการอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี เช่น การพัฒนาระบบซื้อขายหลักทรัพย์โดยร่วมมือกับ Nasdaq เพื่อให้สามารถรองรับมูลค่าซื้อขายจำนวนมากเป็นไปตามมาตรฐานสากล และรองรับผลิตภัณฑ์ลงทุนจากทั่วโลกอย่างไร้รอยต่อ 

เสาหลักที่ 3 การส่งเสริมความยั่งยืน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัทจดทะเบียน จะเห็นได้ว่าปี 2566 มีบริษัทจดทะเบียนรายงานปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวน 445 บริษัท หรือ 50% ของบริษัททั้งหมด ขณะที่มีการรายงานปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดลง 6.1% รวมถึงการส่งเสริมบรรษัทภิบาล ผู้ถือหุ้น สอดคล้องกับกองทุน TESG ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อดึงดูดการลงทุนผ่านแรงจูงใจทางภาษีสำหรับการลงทุนในบริษัทที่มี ESG ระดับสูง 

นอกจากนี้ การฟื้นคืนกองทุนวายุภักษ์ที่ให้ผลตอบแทนน่าสนใจ ขณะที่ยังสามารถสนับสนุนการพัฒนาตลาดหุ้นไทย ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังได้เสนอเครื่องมือที่ดีขึ้นสำหรับให้ผู้ลงทุนประเมินบริษัทจดทะเบียนได้ และยังร่วมมือกับ FTSE RUSSELL เข้าประเมิน ESG บริษัทจดทะเบียนไทย รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ESG ใหม่ และการสนับสนุนธุรกิจครอบครัว ทั้งนี้ 67% ของบริษัทจดทะเบียนเป็นธุรกิจครอบครัว ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พัฒนาโครงการเพื่อสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจครอบครัวให้สามารถเติบโตและส่งต่อธุรกิจสู่รุ่นลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเชื่อมโยงตลาดทุนกับธุรกิจครอบครัว แสดงให้เห็นว่าตลาดทุนจะสามารถเพิ่มศักยภาพธุรกิจครอบครัวได้ ทั้งการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ และการเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจไทย  

ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวในงาน Thailand Focus 2024 : Adapting to a Changing World ว่า งาน Thailand Focus 2024 การสัมมนาจะมีการหารือหลากหลายหัวข้อ ภายใต้การนำของท่านรัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงการคลัง, ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และผู้ทรงคุณวุฒิหลากหลายสาขาที่จะมาแลกเปลี่ยนมุมมอง ทิศทางของเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศไทย โดยเน้นที่ธุรกิจและการลงทุนที่สำคัญ ตลอดจนโอกาสใหม่ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภูมิทัศน์การลงทุนเศรษฐกิจของประเทศไทย

โดยเฉพาะในเวลาที่สำคัญนี้ ประเทศไทยในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจโลก กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายและโอกาสใหม่ๆ ซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี อุตสาหกรรมใหม่ และการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ มองเห็นการเติบโตของอุตสาหกรรมใหม่ การลงทุนเพื่อย้ายฐานการผลิต การเปลี่ยนเข้าสู่ดิจิทัล รวมทั้งการรังสรรค์นโยบายหลากหลายเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก ซึ่งต่างก็เป็นเงื่อนไขสำคัญของการปรับตัวของประเทศไทยเพื่อไปสู่ระบบนิเวศทางเศรษฐกิจใหม่

อีกทั้งการสัมมนาวันนี้ออกแบบมาเพื่อให้สะท้อนต่อธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลง และการปรับตัวต่างๆ รวมถึงความก้าวหน้าของตลาดทุนไทยท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง ผลกระทบของการปรับตัวของอุตสาหกรรม และการลงทุน รวมทั้งศักยภาพของไทยที่จะเป็นศูนย์กลางการแพทย์ในภูมิภาค นอกจากนี้ยังบทบาทของนวัตกรรมดิจิทัลในการเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งระบุถึงโอกาสจากนโยบายที่จะเกิดขึ้นเพื่อรับมือกับปัญหาภูมิอากาศโลกเปลี่ยนแปลง  

ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมุ่งมั่นจะทำให้เวทีนี้เป็นที่ซึ่งเหล่าผู้กำหนดนโยบายชั้นนำ และผู้เล่นต่างๆ ในตลาดมาแลกเปลี่ยนความชำนาญและมุมมองระหว่างกัน และเป้าหมายเพื่อก่อให้เกิดสิ่งแวดล้อมที่ภาคธุรกิจต่าง ๆ จะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ผู้ลงทุนสามารถพบโอกาสใหม่ ๆ และก่อให้เกิดประโยชน์สังคมในวงกว้าง