Phones





กรุงศรี เดาใจกนง. ตรึงดอกเบี้ย เตรียมกระสุนรอครึ่งปีหลัง

2025-04-28 19:52:32 61



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 33.20-33.90 ลุ้นผลประชุมกนง. วันที่ 30 เม.ย.นี้ คาดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.25% ตามเดิม ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศรอลุ้นตัวเลขภาคบริการและการจ้างงานเดือนเม.ย.ของสหรัฐฯ
 
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ ผู้บริหารฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.20-33.90 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 33.50 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 33.08-33.59 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 6 เดือนครั้งใหม่ก่อนจะพลิกกลับมาอ่อนค่า ขณะที่เงินดอลลาร์ฟื้นตัวเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก หลังรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯส่งสัญญาณสงครามการค้ากับจีนจะคลี่คลายลงภายในอนาคตอันใกล้
 
ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์อาจปรับลดภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากจีนจากระดับที่สูงมากเกินจริงและพร้อมที่จะลดข้อพิพาทด้านการค้า นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐฯระบุว่าไม่มีแผนที่จะปลดประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)คนปัจจุบันก่อนที่จะครบวาระในเดือนพ.ค. 2569 ท่าทีที่อ่อนลงดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการแทรกแซงเฟด และกลับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 8,934 ล้านบาท แต่มียอดซื้อพันธบัตรสุทธิ 18,404 ล้านบาท
 
สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ ตลาดจะติดตามข้อมูลภาคบริการและการจ้างงานเดือนเม.ย. ของสหรัฐฯ ขณะที่นายวอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟดกล่าวว่าจะสนับสนุนการลดดอกเบี้ยกรณีตลาดแรงงานแย่ลงอย่างมาก อนึ่ง แม้พัฒนาการล่าสุดบ่งชี้ว่าการตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐฯกำลังจะเข้าสู่ช่วงประณีประนอม แต่มองว่าอาจไม่พอที่จะหนุนการฟื้นตัวที่ยั่งยืนสําหรับค่าเงินดอลลาร์ในระยะยาว โดยดอลลาร์ที่ร่วงลงในเดือนเม.ย. สะท้อนมุมมองของตลาดที่ว่าสหรัฐฯจะได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าแบบสุดโต่งมากกว่าเศรษฐกิจหลักแห่งอื่นๆ
 
นอกจากนี้ ประเมินว่าความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้วจากนโยบายสหรัฐฯ ขณะที่ภูมิทัศน์ตลาดการเงินโลกเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อาจฟื้นตัวเล็กน้อยในช่วงสั้นๆหากเศรษฐกิจสหรัฐฯไม่ชะลอลงมากเท่าที่นักลงทุนกังวลซึ่งจะทําให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยยากขึ้นเมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของตลาดในปัจจุบัน ทางด้านธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)มีแนวโน้มคงดอกเบี้ยที่ 0.50% ในวันที่ 1 พ.ค.
 
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) อาจคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.00% ในการประชุมวันที่ 30 เม.ย. เพื่อจับตาและรอความชัดเจน โดยเก็บกระสุนดอกเบี้ยนโยบายไว้ใช้ในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์รายงานยอดส่งออกไตรมาส 1/2568 เพิ่มขึ้น 15.2% แต่ในช่วงที่เหลือของปี ภาคส่งออกเผชิญความท้าทายจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯและภาษีตอบโต้จากประเทศอื่นๆ