Phones





ACG ไตรมาสแรกปี 68 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 50.85%

2025-05-08 11:50:40 35



นิวส์ คอนเน็คท์ - ACG รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2568 กำไรสุทธิ 10.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.85% ขณะที่รายได้อยู่ที่ 387.50 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 บริษัท ออโตคอร์ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ACG รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 1 ปี 2568 โดย ACG และบริษัทย่อย มีรายได้รวมจำนวน 387.50 ล้านบาท ลดลง 11.11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 435.91 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.85% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2567 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 7.10 ล้านบาท 

สาเหตุหลักเกิดจากส่วนงานจำหน่ายรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่งที่มีรายได้ลดลง 58.45 ล้านบาท หรือ 22.12% อย่างไรก็ตาม ส่วนงานบริการและจำหน่ายอะไหล่มีรายได้เพิ่มขึ้น 11.56 ล้านบาท หรือ 7.26% ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมเท่ากับ 368.10 ล้านบาท ลดลง 11.97% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากต้นทุนขายที่ลดลง ซึ่งสอดคล้องกับการลดลงของรายได้จากการขาย จะเห็นได้ว่า กลุ่ม ACG มีความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น 1.72%

ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยแห่งแรกที่ประกอบกิจการโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการรถยนต์ มีรายได้รวมสำหรับไตรมาส 1 ปี 2568 เท่ากับ 339.00 ล้านบาท ลดลง 13.71% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2567 ซึ่งมาจากปริมาณการขายรถยนต์ที่ลดลง 17.74% รวมทั้งปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยยังเผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากการเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อของสถาบันการเงิน ส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์รวมในประเทศ 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของงานบริการซ่อมบำรุงและจำหน่ายอะไหล่มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น 5.96% โดยสรุปบริษัทย่อยแห่งแรกมีความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น 1.49% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  
สำหรับบริษัทย่อยแห่งที่ 2 ศูนย์บริการรถยนต์ประเภทเร่งด่วน (FAST FIT) มีรายได้รวม 51.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.49% เนื่องจากปริมาณรถยนต์ที่เข้ารับบริการเพิ่มขึ้น 6.80% และรายได้ต่อคันของรถเข้ารับบริการเพิ่มขึ้น 9.92% สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิผลของกลยุทธ์ในการเพิ่มรายได้ต่อคันและการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง โดยในไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทย่อยแห่งที่ 2 มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 3.74% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น