นิวส์ คอนเน็คท์ - AOTยันมีความจำเป็นต้องสร้างเทอร์มินอล 2 (North Expansion) สุวรรณภูมิ ชี้ผู้โดยสารในปี 66 จะเกินขีดความสามารถที่สนามบินรองรับ มั่นใจโควิด-19 คลี่คลายหลังการพัฒนาวัคซีนมีความก้าวหน้ากลางปี 64 ได้ใช้

เมื่อเร็วๆ นี้ นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาอาคารผู้โดยสารส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ (North Expansion) (เทอร์มินอล2) กรอบวงเงินลงทุน 42,000 ล้านบาท ว่า AOT อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงแผนการลงทุนพัฒนา North Expansion ใหม่ หลังจากทางสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) มีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมในเรื่องการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เกิดผลกระทบกับอุตสาหกรรมการบิน

โดยการปรับปรุงแผนใหม่จะต้องคำนึงถึงการออกแบบให้สอดคล้องกับยุค New Normal หรือการใช้ชีวิตภายใต้วิถีใหม่ในสัมคมเป็นปัจจัยสำคัญ รวมถึงจะต้องจัดทำรายละเอีดยเพิ่มเติมถึงความจำเป็นในการดำเนินการก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านตะวันออก (East Expansion) และส่วนต่อขยายด้านตะวันตก (West Expansion) ของอาคารผู้โดยสารหลังเดิมตามที่ “นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ให้การบ้านไว้ ทั้งนี้ตนคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการปรับปรุงแผนประมาณ 1-2 เดือนจากนั้นจะส่งให้ สศช.พิจารณาใหม่อีกรอบ

อย่างไรก็ตามทาง AOT ยืนยันว่ายังมีความจำเป็นในการก่อสร้าง North Expansion ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากเชื่อมั่นว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะเริ่มคลี่คลายหลังจากมีวัคซีนป้องกัน ซึ่งปัจจุบันหลายประเทศมีความก้าวหน้าเรื่องพัฒนาวัคซีน โดยประเทศชั้นนำในยุโรป และสหรัฐอเมริกาก็มั่นใจว่าจะเริ่มใช้วัคซีนได้อย่างเป็นทางการในปี 64 ขณะที่รัฐบาลไทยล่าสุดก็ได้ลงนามในสัญญากับแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) บริษัทผลิตวัคซีนสัญชาติอังกฤษ-สวีเดน

ทั้งนี้ในการก่อสร้าง North Expansion จะต้องดำเนินการก่อสร้างตามแผนเพื่อรองรับการเติบโตของผู้โดยสารในอนาคต ซึ่งภายหลังจากที่มีวัคซีนป้องกันแล้วคาดว่าปลายปี 65 สถานการณ์อุตสาหกรรมการบินจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และในปี 66 คาดว่าผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ที่มีผู้โดยสารราว 65 ล้านคนเกินความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่รองรับได้เพียง 45 ล้านคน ขณะที่โครงการก่อสร้าง North Expansion หากได้รับการอนุมัติและดำเนินการก่อสร้างตามแผนก็จะแล้วเสร็จประมาณปี 67-68 ซึ่ง ณ ตอนนี้ผู้โดยสารอาจจะเติบโตมากกว่า 65 ล้านคน

ส่วนการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) ภายใต้โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.ระยะ 2) นั้นคาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดให้บริการในปี 65 ซึ่งรองรับผู้โดยสารได้เพียง 15 ล้านคน หากรวมกับผู้โดยสารของเฟสแรก 45 ล้านคนก็เท่ากับรองรับผู้โดยสารได้เพียง 60 ล้านคน ดังนั้น AOT จึงมองถึงความจำเป็นในการก่อสร้าง North Expansion ที่มีความสามารถในการรองรับผู้โดยสารราว 30 ล้านคน รวมถึงการก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านตะวันออก และส่วนต่อขยายด้านตะวันตกของอาคารผู้โดยสารหลังเดิมรองรับผู้โดยสารรวมกัน 30 ล้านคนจะส่งผลให้ความสามารถในการรองรับผู้โดยสารรวมกันทั้งหมดเป็น 120 ล้านคน แต่อย่างไรก็ตามการพัฒนาโครงการ North Expansion ส่วนต่อขยายด้านตะวันออก และส่วนต่อขยายด้านตะวันตกนั้นก็ขึ้นอยู่กับ สศช.และกระทรวงคมนาคมจะพิจารณาว่าจะเห็นชอบหรือไม่อย่างไร

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews