นิวส์ คอนเน็คท์ - JR เปิดเทรดวันแรกราคา 7.60บ. จาก IPO ที่ 5.50 บ. หลังนักลงทุนให้ความเชื่อมั่น ย้ำแผนธุรกิจชัดเจนมั่นใจปีหน้ารายได้โต 100% 

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JR เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก โดยมีราคาเปิดตลาดที่ 7.60 บาท เพิ่มขึ้น 2.10 บาท หรือ 38.18% จากราคา IPO ที่ 5.50 บาท ภายหลังจากนั้นราคาหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยมีราคาสูงสุดที่ 7.85 บาท และได้มีแรงขายออกมาเล็กน้อยในระยะต่อมา จึงมีราคาปิดตลาดภาคเช้าที่ 7.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.90 บาท หรือ 34.55%

นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JR เปิดเผยว่า บริษัทพอใจราคาหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดฯวันแรก มีราคาเปิด 7.60 บาท สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท ประกอบกับแผนงานธุรกิจที่มีความชัดเจนและสามารถสร้างการเติบโตได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

สำหรับเป้าหมายปีหน้าคาดรายได้จะเติบโตได้ 100% จากปีนี้ จากการทยอยรับรู้งานในมือ (Backlog) ที่มีอยู่กว่า 6,200 ล้านบาท อีกทั้งยังมีงานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมาจากการเข้ารับงานจากผู้รับเหมาที่ชนะการประมูลรวมถึงการเข้าประมูลงานและรับเองด้วยตนเอง

นอกจากนี้ในปีหน้า Backlog ยังมีโอกาสแตะระดับ 10,000 ล้านบาท หากการดำงานก่อสร้างของรถไฟฟ้าสายสีเหลือ ชมพู และส้ม มีความชัดเจน รวมถึงการเสนอเข้ารับงานจาก BGRIM ที่เตรียมสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่และปรับปรุง รวมจำนวน 7 โครงการ ซึ่งงานที่จะเข้าไปรับเป็นประเภทระบบสายส่งรวมถึงสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยและยังมีนโครงการโรงไฟฟ้าหินกองของบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ที่คาดว่าจะเห็นการเปิดประมูลในปีหน้านอกเหนือจากนั้นยังมีงานของเอกชนรายอื่นๆอีกจำนวนมาก หากมีความชัดเจนบริษัทจะแจ้งให้ทราบต่อไป

"ช่วงไตรมาส 1/64 ผลการดำเนินงานจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากรับรู้รายได้จากโครงการขนาดใหญ่ที่ส่งมอบตามกำหนด ซึ่งจะหนุนให้Backlog เพิ่มสูงขึ้น จากเดิมที่มีอยู่ 6.2 พันล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ ไปถึงปี 66 แต่ระหว่างนี้ที่ศักยภาพของบริษัทสามารถรับงานได้สูงขึ้นอาจดันให้ Backlog พุ่งแตะระดับเหมื่นล้านบาทก็เป็นได้ จากปกติแล้วเราจะมีงานเข้ามาเพิ่มปีละประมาณ 1,000 ล้านบาท " นายจรัญ กล่าว

>>>สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ทาง http://www.newsconnext.com
หรือติดตามผ่านช่อง Line@ ได้ที่ News Connext
ช่องทาง Fanpage Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/connextnews