Phones





NER กำไรโตแกร่ง โบรกฯ ประสานเสียง "ซื้อ"

2024-06-23 17:08:30 139



NER กำไรโตแกร่ง โบรกฯ ประสานเสียง "ซื้อ" (สกู๊ปพิเศษ)

ยังคงทำผลงานได้แกร่งทั่วแผ่น สำหรับ บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสมเพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง ทั้งในและต่างประเทศ โดยผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 1/2567 มีรายได้จากการขายรวม 6,541.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 285.45 ล้านบาท หรือ 4.60% แบ่งเป็น รายได้จากการขายในประเทศ 4,869.56 ล้านบาท สัดส่วน 74.44% เพิ่มขึ้น 951.48 ล้านบาท หรือ 24.28% และรายได้จากการขายต่างประเทศ 1,672.29 ล้านบาท สัดส่วน 25.56% ของยอดขายรวม ลดลง 664.03 ล้านบาท หรือ 28.42% โดยมีกำไรสุทธิ 453.61 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 6.93% ของรายได้รวม เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น 44.29%

วางเป้ายอดขายเติบโต 5-10%
"สำหรับเป้าหมายการเติบโตปี 2567 ด้วยสถานการณ์ยางพาราที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าไม่ต่ำกว่า 70 บาทต่อกิโลกรัม บริษัทได้รับอานิสงส์ตามความต้องการของตลาด (Demand) ภาวะฟื้นตัวของอุตสาหกรรมทั้งตลาดในและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เพิ่มขึ้น ที่มีความต้องการมากขึ้น การใช้งานมากขึ้น และยังมีย้ายฐานการผลิตเข้ามาในประเทศ ดังนั้น ตลาด EV นับเป็นตลาดสำคัญของกลุ่มธุรกิจยางพารา บริษัทฯ คาดว่าจะมียอดขายยางพาราอยู่ที่ประมาณ 5.1 แสนตัน เพิ่มขึ้น 5-10% จากปี 2566 เนื่องจากได้มีการปรับปรุงโรงงาน และครื่องจักรเดิมให้มีประสิทธิภาพในการผลิตเพิ่มขึ้น" นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NER ระบุ

นอกจากนี้ ค่าเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่าลง เป็นบวกต่อบริษัท ซึ่งบริษัทเดินหน้าผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ส่วนความต้องการจากตลาดจีนอาจจะลดลงบ้างแต่เชื่อว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงบริษัทมีความพร้อมในการจำหน่ายยางสำหรับมาตรการ EUDR หรือ EU Deforestation-Free Regulation ซึ่งเป็นกฎหมายสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่าที่จะเริ่มปีนี้ ซึ่งจะเป็นบวกกับบริษัทด้วยเช่นเดียวกัน เป็นโอกาสสร้างยอดขายในต่อไป

ด้าน ESG บริษัทฯ ยังคงดำเนินโครงการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งมิติด้านสิ่งแวดล้อม มิติด้านสังคม และมิติด้านบรรษัทภิบาล และจะดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคมมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปพร้อมกับการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ

คว้ารางวัล Bronze Top35% จาก EcoVadis 
และเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา NER สามารถคว้ารางวัลระดับ Bronze Top35% จาก EcoVadis องค์กรจัดอันดับด้านความยั่งยืนทางธุรกิจชั้นนำระดับโลก โดย NER ได้รับรางวัลระดับ Bronze Top35% ติดต่อกันเป็นเวลา 5 ปี โดยผลการประเมินจาก EcoVadis สะท้อนให้เห็นถึงจุดแข็งของบริษัทในหลายด้าน โดยเฉพาะในด้านจริยธรรมและด้านการจัดการห่วงโซ่อุปทาน ซึ่ง NER มุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
”เป็นความภาคภูมิใจของ NER ที่ได้เห็นว่าความมุ่งมั่นและการมีส่วนร่วมของพนักงานทุกคนในการสร้างความยั่งยืนเกิดผลเป็นรูปธรรม จนได้รับรางวัลมาอย่างต่อเนื่อง รางวัล EcoVadis BRONZE Top35% จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยยืนยันความน่าเชื่อถือ และความมุ่งมั่นของ NER ในการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมยางพาราไทย NER มุ่งมั่นที่จะพัฒนาการดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง และจะเป็นแรงผลักดันให้ NER พัฒนาสู่การยกระดับความยั่งยืนให้สูงขึ้นต่อไป” 

โบรกฯ เชื่อมั่น NER แนะนำ ”ซื้อ”
หันไปทางฝั่งโบรกเกอร์ ต่างประสานเสียงเชียร์ ”ซื้อ” หุ้น NER โดยระบุว่าธุรกิจโตรับอานิสงส์จากราคายางเพิ่มขึ้น โดย บล. กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ชี้ กำไรปกติ 1Q24 ดีคามคาด และโมเมนตัมจะดีขึ้นใน 2Q24E คงคำแนะนำ ซื้อ (FV 6.51 บาท) จากความเสี่ยงทางเทคนิคขา ลงที่จำกัด หลังราคาหุ้นปรับลดลงราว 14% เมื่อเราแนะนำ “ขายทำกำไร” หุ้นกลุ่มยางพาราในช่วงกลางเดือน มี.ค. ที่ราคายางทำจุดสูงสุด ขณะที่กำไรปกติ 1Q24 ดีตามคาด และคาดโมเมนตัมกำไร ปกติ 2Q24E จะแข็งแกร่งขึ้น QoQ จากแนวโน้มราคาขายที่คาดจะ สะท้อนราคายางขาขึ้นอย่างเต็มที่ โดยเราคงมุมมองเชิงบวกต่อ ราคายาง-การฟื้นตัวของกำไรปกติในปี 2024E และคาดการเพิ่มขึ้น ปริมาณขายยาง จากการขยายกำลังการผลิต STR จะหนุนการ เติบโตของกำไรปกติในปี 2025-26E (คงมุมมองกำไรโตเฉลี่ย 10% CAGR ในช่วงปี 2024-26E)
บล. ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า 1Q24 ใกล้เคียงคาด, 2Q24E ดีต่อเนื่องอนิสงส์ราคายางสูงขึ้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมาย 6.80 บาท อิง 2024E PER 7x (+0.5SD above 5-yraverage PER) NER รายงานกำไรปกติ 1Q24 ที่ 476 ล้านบาท (+57% YoY, +11% QoQ) ใกล้เคียงเราคาด หลักๆ หนุนโดย 1) ราคาขายยางปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย +16% YoY, +10% QoQ ตามทิศทางราคายางในตลาด ส่งผลให้ GPM โดยรวมดีขึ้น +190bps YoY, +30bps QoQ และ 2) SG&A อ่อนตัว โดยเราคาดเป็นผลจากค่าขนส่งลดลง เป็นไปตามปริมาณส่งออกชะลอหลังลูกค้าจีนบางส่วนมีการ wait & see และจากปัจจัยฤดูกาล 

โดยคงกำไรปกติปี 2024E ที่ 1.8 พันล้านบาท (+12% YoY) สำหรับ 2Q24E เบื้องต้นคาดการณ์กำไร ปกติจะโตต่อเนื่อง YoY, QoQ ได้ปัจจัยหนุนหลักจากราคาขายที่มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น +30% YoY, 25% QoQ ช่วยหนุน GPM ขณะที่ ราคาหุ้น outperform SET +23% ใน 6 เดือน แต่กลับมา underperform SET -6% ใน 1 เดือน หลังหุ้นขึ้น XD และราคายางกลับมาชะลอตัว -13% QTD อย่างไรก็ตามราคายางปัจจุบันยังทรงตัวสูง +50% YoY ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนต่อผลการดำเนินงานมากขึ้นตั้งแต่ 2Q24E ขณะที่ยังมี catalyst จากแนวโน้ม GPM มีโอกาสดีกว่าคาด ความคืบหน้าโรงงานใหม่ในปี 2025E และอานิสงส์การขยายตัวของ อุตสาหกรรม EV