Phones





พาณิชย์ จับมือ “เมียนมา” พัฒนาการค้ายั่งยืน ปรับปรุงห่วงโซ่สินค้าเกษตร

2024-07-18 17:15:58 24



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – กระทรวงพาณิชย์ พบปะหารือ “เมียนมา” เดินหน้าพัฒนาการค้าอย่างยั่งยืน พร้อมปฏิบัติตามมาตรฐานโลก รวมถึงการปรับปรุงห่วงโซ่สินค้าเกษตร ผลักดันความร่วมมือแก้ไขมลภาวะทางอากาศ
 
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการหารือกับนายอู คุน เทียน หม่อง รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์รัฐฉาน, พลจัตวา จ่อว์ เท็ด ผบ.ภาคสามเหลี่ยม, นายอู ไซ เลต รัฐมนตรีด้านทรัพยากรธรรมชาติของคณะผู้บริหารรัฐฉาน และคณะ ว่า ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย ให้ตนมาติดตามสถานการณ์การค้าเพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนระหว่างไทย - เมียนมา โดยเริ่มต้นที่รัฐฉานซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบสินค้าที่สำคัญเข้าสู่ไทย โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์โดยได้หารือถึงแนวทางความร่วมมือระหว่างกันในประเด็นการส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะความร่วมมือระหว่างกันในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ข้ามพรมแดน และส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงการค้าชายแดนระหว่างกันให้มากขึ้น ซึ่งรัฐบาลไทย โดยกระทรวงพาณิชย์ยินดีที่จะร่วมมือกับเมียนมา ช่วยกันแก้ไขหรือลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
 
โดยในการหารือทั้งไทยและเมียนมา ได้แสดงออกถึงความจริงใจและตั้งใจที่จะร่วมมือกันแก้ไขปัญหา โดยไทยได้เสนอแนวทางบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานรัฐโดยมี กรมการค้าต่างประเทศ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงย่างกุ้ง กรมปศุสัตว์ กรมวิชาการเกษตร กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กรมควบคุมมลพิษ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ที่พร้อมจะทำงานร่วมกัน และอำนวยความสะดวกในการประสานงานแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว 
 
นอกจากนี้ จะสนับสนุนข้อมูลให้ความร่วมมือทางนวัตกรรม และองค์ความรู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปลูกข้าวโพด 75 วัน ซึ่งสามารถเก็บทั้งต้นและสามารถปรับเป็นอาหารสัตว์ ตลอดจนการนำไปทำปุ๋ย ผลิตสินค้าที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งจากการหารือในวันนี้ ทั้งสองประเทศเห็นพ้องกัน และรัฐฉานให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยทางไทยจะได้มีการติดตามผลในอีก 3 เดือนข้างหน้า
 
“ขอบคุณทางเมียนมาที่มีความจริงใจและมีความตั้งใจร่วมกัน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ทางการค้าที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากประเด็นสร้างผลผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Carbon Footprint และอื่น ๆ ซึ่งการประชุมวันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จได้รับความร่วมมือและร่วมแก้ปัญหาไปได้ในระยะยาว” นายนภินทร กล่าว
 
ทั้งนี้ พื้นที่ทำการเกษตรของเมียนมามีทั้งหมดประมาณ 80 ล้านไร่ อยู่ในรัฐฉานประมาณ 7.6 ล้านไร่ คิดเป็น 9% ของพื้นที่ทำการเกษตรเมียนมา ทั้งนี้เป็นการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 3 ล้านไร่ หรือคิดเป็น 40% ของพื้นที่เกษตรทั้งหมดของรัฐฉาน สำหรับสถานการณ์การค้าชายแดนไทย – เมียนมานั้น ในปี 2567 (ม.ค. - พ.ค.) ไทยนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมปริมาณ 1.09 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 (นำเข้า 0.77 ล้านตัน) โดยนำเข้าจากเมียนมาเป็นอันดับหนึ่ง ปริมาณ 0.91 ล้านตัน (82.80%) รองลงมาได้แก่ สปป. ลาว 0.18 ล้านตัน (16.84%) และกัมพูชา 0.004 ล้านตัน (0.37%) โดยสินค้าส่วนใหญ่จะส่งออกทางบกผ่านด่านเมียวดี-แม่สอด จังหวัดตาก